เสริมคาง กี่วัน ล้างหน้าได้ และการเสริมคาง มีกี่แบบ สิ่งที่คุณต้องรู้

การเสริมคาง เป็นการทำศัลยกรรมอย่างหนึ่ง ด้วยวิธีผ่าตัดเล็กแล้วเสริมซิลิโคนซึ่งเหลาปรับทรงได้ตามความต้องการ ซิลิโคนที่ใช้นี้จะต้องได้มาตรฐานทางการแพทย์ ทำด้วยผู้เชี่ยวชาญ จึงจะมีความปลอดภัย การเสริมคางเหมาะสำหรับคนที่มีสัดส่วนของใบหน้าไม่สมดุล เช่นคางเล็กมากเกินไป คางหดสั้นเข้าไปด้านใน คนที่โครงหน้าไม่ได้รูป คางไม่สมส่วน คนที่ใบหน้าสั้น สัดส่วนคางไม่เข้ารูปกับสัดส่วนใบหน้าส่วนอื่น การเสริมคางยังเหมาะสำหรับคนที่มีใบหน้ารูปกลม หน้ารูปเหลี่ยม โดยจะช่วยให้ใบหน้าแลดูมีมิติมากขึ้น และเหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้มีความรี เรียวเล็ก ดูเป็นรูปไข่ การเสริมคางใช้เวลาประมาณ 40-60 นาที เนื่องจากเป็นการผ่าตัดเล็กไม่จำเป็นต้องนอกพักฟื้น แพทย์จะให้กลับบ้านได้หลังจากดูอาการหลังผ่าตัด 30 นาที

เสริมคางกี่วันล้างหน้าได้

สามารถล้างหน้าได้แต่อย่าให้โดนแผลหลัง4วันเข้ารับการผ่าตัดให้แกะเฝือกที่ติดคางออกได้ด้วยการนำน้ำอุ่นมาช่วยในการลูบเบา ๆ ให้พลาสเตอร์ค่อย ๆ ลอกออก

ค่าใช้จ่ายในการเสริมคางขึ้นอยู่กับคุณภาพและมาตรฐานของซิลิโคนที่เลือกใช้ รวมถึงสถานพยาบาลที่เลือกรับบริการในแต่ละที่ โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 10,000-45,000 บาท

การเสริมคางมี 2 แบบ

1. การเสริมคางด้วยการผ่าตัดเปิดแผลจากภายใน

เป็นการผ่าตัดภายในช่องปาก บริเวณริมฝีปากล่างกับเหงือกด้านใน เพื่อใส่ซิลิโคนเข้าไปตรงบริเวณกระดูกคาง จะช่วยไม่มีแผลเป็น เพราะมองไม่เห็นแผลจากภายนอก เหมาะกับผู้ที่เป็นแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ เพราะแผลจะซ่อนอยู่ด้านใน

เสริมคาง กี่วัน ล้างหน้าได้ ต้องมาลองดู

วิธีปฏิบัติ และดูแล รักษาแผลด้านในหลังจากทำศัลยกรรมเสริมคาง

  • การเข้ารับการผ่าตัดเสริมคาง จะผ่าจากด้านในปาก จึงทำให้มีแผลในปากเพราะฉะนั้น จึงเป็นเหตุผล ว่าคนที่ทำจะต้องพยายามหลีกเลี่ยงการทานอาหารรสจัด อาหารร้อน ของหมักดอง อาหารที่ต้องใช้แรงเคี้ยวในช่วงแรก
  • ทำความสะอาดด้วยการบ้วนปากด้วยน้ำยา ไม่ทำให้เกิดอาการแสบ หรือน้ำเกลือผสมน้ำยาบ้วนปากที่เจือจาง จากนั้นก็ตามด้วยการบ้วนน้ำเกลือเปล่า ๆ อีก 1 ครั้ง
  • ภายในช่วง 3-4 วันแรก ที่สำคัญห้ามใช้ลิ้นดุนไหมในปากเล่นเด็ดขาด
  • ให้ทานยาตามที่แพทย์สั่งให้หมด อย่าซื้อยามาทานเพิ่มเองเป็นอันขาด ยาที่สามารถได้คือยาแก้ปวดลดบวมยาฆ่าเชื้อ ในกรณีมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ที่เป็นผลข้างเคียงมาจากการทานยาแก้อักเสบ ให้รีบแจ้งแพทย์โดนทันที และอย่าลืมแจ้งแพทย์ทุกครั้งหากมีอาการแพ้ยาหรือมีโรคประจำตัว

2.การเสริมคางด้วยการผ่าตัดเปิดแผลจากภายนอก

เป็นการผ่าตัดบริเวณใต้คางภายนอก ทำให้มีโอกาสติดเชื้อน้อยกว่าการเปิดแผลในช่องปาก กล้ามเนื้อและเส้นประสาทได้รับการกระทบกระเทือนค่อนข้างน้อย เพราะแพทย์สามารถหลีกเลี่ยงกล้ามเนื้อและเส้นประสาท เพื่อเข้าสู่ขอบล่างของกระดูกกรามได้โดยตรง เมื่อเกิดปัญหาซิลิโคนเบี้ยวหรือเอียงจะแก้ไขได้ง่ายกว่า เพราะสามารถผ่าตัดซ้ำที่แผลภายนอกได้เลย

วิธีปฏิบัติและดูแลรักษาแผลด้านนอกหลังจากทำศัลยกรรมเสริมคาง

เพื่อที่ผู้ทำศัลยกรรมหลังจากทำศัลยกรรมเสริมคางแล้ว จะได้ดูแลรักษาแผลที่เกิดจากการศัลยกรรมเสริมคางได้อย่างถูกวิธี เพราะหากดูแลไม่ดีอาจส่งผลเสียทำให้แผลการผ่าตัดเกิดการติดเชื้อ หรืออาจทำให้เกิดการผิดแปลกไปกว่าสิ่งที่อยากจะให้เป็นก็ได้ เพราะฉะนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้น เราลองมาดูวิธีดูแลหลังการผ่าตัด

  • หลังเข้ารับการผ่าตัดเสร็จให้เริ่มประคบเย็นทันที เป็นระยะเวลาประมาณ 48 ชั่วโมงโดยอาจจะใช้ผ้าขนหนูที่เปียกหมาด ๆ สัก 3 ผืนไปแช่ช่องแข็งจากนั้นก็ให้นำมาประคบสลับกันอย่างต่อเนื่อง หากหลังจากครบ 48 ชั่วโมงให้หยุดประคบโดยทันที
  • พยายามหลีกเลี่ยงการกดแรง ๆ ตรงจุดที่มีซิลิโคนอยู่
  • นอกจากนี้ภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากการผ่าตัดให้นอนยกหัวสูงหรือนั่งหลับเพื่อลดอาการบวมอาการบวมจะมีมากในช่วงของ 3-4 วันแรกเป็นอาการปกติ

ข้อควรรู้และผลข้างเคียงจากการเสริมคาง

หลังจากผ่าตัดเสริมคาง ใบหน้าจะยังไม่เข้ารูปในทันที และอาจมีผลข้างเคียงบ้าง

  • หากมีรอยเขียวช้ำหลังจากการผ่าตัดประมาณ 1-2 สัปดาห์ ให้ประคบด้วยน้ำอุ่นบริเวณรอยเขียวช้ำ เพื่อให้รอยเขียวช้ำหายเร็วขึ้น
  • อาการบวมมักจะยุบลงและได้รูปร่างของคางใหม่ เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1-3 เดือน หลังการผ่าตัด
  • หลังการเสริมคาง อาจเกิดอาการชาบริเวณคาง ริมฝีปาก ฟันล่างด้านหน้า เนื่องจากเส้นประสาทถูกรบกวนจากการผ่าตัด แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะเกิดเพียงชั่วคราว อาการชาจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ และฟื้นได้ในเวลาประมาณ 1-3 เดือน
  • หากมีการกระแทกหรือกระทบอะไรแรงๆ อาจส่งผลให้คางเอียงได้ โดยเฉพาะในช่วงประมาณ 1 เดือนหลังการผ่าตัด จะต้องแก้ไขโดยการผ่าเพื่อเข้าจัดคางใหม่
  • ผู้ที่อาจเป็นอันตรายและไม่ควรเสริมคาง ได้แก่ ผู้ที่เป็นโรคลมชัก โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคเลือดและสตรีมีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร