เสริมคางห้ามกินอะไรบ้าง คนทำศัลยกรรมต้องรู้ เพราะอาจจะมีผลโดยตรง

การเสริมคางเป็นการเสริม แต่งใบหน้าให้สมส่วน กลมกลืน ช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ที่มีคางเล็ก ใหญ่ ที่ไม่ได้สัดส่วน หรือปรับคางถดถอยไปด้านหลังมากเกินไป ให้กลับมาสวยงามได้ รูปทรง คาง เป็นจุดหนึ่งที่สำคัญของความงามบนใบหน้า แล้วเมื่อเราใช้บริการศัลยกรรมเสริมคางห้ามกินอะไรบ้าง ซึ่งผู้ที่ใช้บริการเสริมคางจะต้องระวังในการรับประทานอาหารหลังจากนี้

หลังเสริมคางกินอะไรได้บ้าง

ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดเสริมคางควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้ครบทุกด้าน โดยเน้นเป็นอาหารอ่อน ๆ และไม่ควรรับประทานอาหารที่มีรสจัด เพื่อเป็นการลดการอักเสบของแผล ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่สะอาด เช่น ของหมัก ของดอง ปลาร้า อาหารร้อน หรืออาหารที่ต้องใช้แรงเคี้ยวในช่วงแรก เพราะอาหารจำพวกนี้อาจทำให้ติดเชื้อได้

นอกจากนี้ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะเป็นสาเหตุที่จะทำให้แผลหายช้า อีกทั้งการดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้เกิดอาการมึนเมา ขาดสติ จนเกิดอุบัติเหตุที่ไปกระทบกระเทือนต่อบาดแผลได้ โดยหลังผ่าตัดเสริมคางนอกจากโปรตีนและธาตุเหล็กและสังกะสีแล้ว ยังมีอาหารที่แนะนำดังนี้

  • วิตามินซี สามารถพบได้จากผัก ผลไม้ เช่น ส้ม ฝรั่ง มะละกอ กีวี บร็อคโคลี เป็นต้น เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก และสร้างเม็ดเลือดแดง ช่วยเรื่องความแข็งแรงของผนังหลอดเลือด ทำให้บาดแผลสมานตัวได้เร็วขึ้น ลดอาการบวมช้ำ อักเสบได้ดี
  • ไขมันดี พบได้ในน้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วลิสง น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันงา น้ำนมจากอัลมอนด์ เป็นต้น เนื่องจากมีคุณสมบัติให้พลังงานสูง ช่วยสลายโปรตีนจากกล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงานในการสร้างและซ่อมแซมเยื่อหุ้มเซลล์ได้อีก แถมยังมีส่วนช่วยให้แผลสมานได้เร็วขึ้น
  • ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 – 10 แก้วให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพราะน้ำเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

เสริมคางห้ามกินอะไรบ้าง ที่ไหนดี

แนะนำบทความยอดนิยม miradry ทําที่ไหน จากเว็บไซต์ Rattinan.com

ใครที่ควรทำศัลยกรรมเสริมคาง

  • ผู้ที่มีโครงหน้าไม่ได้รูป กรามและคางไม่สมส่วน
  • ผู้ที่มีคางเล็กมากเกินไป คางหดสั้นเข้าไปด้านใน
  • ผู้ที่มีอาการสบฟันผิดปกติ คางยื่นออกมาข้างหน้า
  • ผู้ที่มีใบหน้าสั้น สัดส่วนคางไม่เข้ารูปกับสัดส่วนใบหน้าส่วนอื่น ๆ

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการศัลยกรรมเสริมคาง

  • ท่านจะต้องแจ้งโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยารับประทาน ยาชา หรือยาสลบ ให้แพทย์ทราบ
  • ก่อนเข้ารับการเสริมคาง 2 สัปดาห์ ควรงดกลุ่มยาที่จะมีผลต่อการหยุดเลือด เช่นแอสไพริน และอาหารเสริมจำพวกวิตามิน เช่น วิตามินอี น้ำมันตับปลา โสม
  • ท่านไม่ต้องอดอาหาร เนื่องจากเป็นการผ่าตัดโดยใช้ยาชาเฉพาะที่เท่านั้น ไม่ต้องดมยาสลบ แต่ก็ไม่ควรทานจนอิ่มเกินไป ป้องกันอาการแน่นอึดอัดท้องระหว่างการผ่าตัด
  • งดหรือเลิกสูบบุหรี่ อย่างน้อย 4 สัปดาห์ ก่อนและหลังผ่าตัด เพราะมีผลต่อการหายของแผล ทำให้แผลหายช้า เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • ก่อนเข้ารับการเสริมคาง 1 สัปดาห์ ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ก่อนการผ่าตัดท่านต้องแปรงฟันทำความสะอาดช่องปากให้พร้อม
  • ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางบริเวณใบหน้า ซึ่งถ้าหากการล้างหน้าไม่สะอาด อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
หลังผ่าตัดเสริมคาง ควรดูแลตัวเองอย่างไร
  • รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น ยาลดบวม ยาแก้ปวด ในกรณีมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ที่เป็นผลข้างเคียง มาจาก การทานยา ควรปรึกษาแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนยา
  • ภายใน 48 ชั่วโมง หลังจากการผ่าตัดเสริมคาง ให้นอนยกหัวสูง หรือ นั่งหลับ เพื่อลดอาการบวม และควรนอนโดยใช้หมอนรองคอช่วย และงดการนอนตะแคง 1 เดือน
  • ควรหมั่นประคบเย็น โดยประคบทาบลงเบาๆ บริเวณคาง เป็นเวลา 3 วัน จากนั้นเปลี่ยนเป็นประคบอุ่นอีก 3 วัน ซึ่งจุดที่ต้องประคบคือ บริเวณข้างคางทั้งด้านซ้ายและขวา, บริเวณด้านบนคาง ใต้ริมฝีปากล่าง และบริเวณใต้คาง
  • งดการเท้าคางหรือให้คางได้รับการกระทบกระเทือนรุนแรง เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของซิลิโคน และไม่ควรเกา หรือถูบริเวณที่มีอาการคันเพราะอาจทำให้ผิวหนังถลอกและติดเชื้อได้
  • ใส่ใจรักษาความสะอาดของแผล ในกรณีที่ผ่าตัดเสริมคางแบบแผลนอกช่องปากควรทำความสะอาดแผลเพื่อป้องกันไม่ให้แผลติดเชื้อ โดยใช้สำลีชุบน้ำเกลือเช็ดล้างแผลให้สะอาดอยู่เสมอ ส่วนการผ่าตัดเสริมคางแผลในให้งดแปรงฟัน 1-2 สัปดาห์หลังทำ และทำความสะอาดด้วยน้ำยาบ้วนปากแทน
  • เมื่อแผลแห้งแล้ว ควรเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวที่สร้างใหม่ด้วยการทาโลชั่นหรือครีมเพื่อลดอาการคัน
  • งดสูบบุหรี่ 1 เดือน

บทสรุป

เสริมคางห้ามกินอะไรบ้าง เมื่อทำการเสริมคางเรียบร้อยแล้วท่านจะต้องดูและในเรื่องอาหารการกินให้ดี ไม่เช่นนั้นอาจมีผลกระทบต่อแผลที่ทำการผ่าตัดมา ซึ่งท่านจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด