การเสริมคางเป็นการทำศัลยกรรมที่ช่วยจัดการกับปัญหาคางสั้น บุ๋ม ทูม เบี้ยว ยื่นเป็นแม่มด โดยการนำเอาซิลิโคนที่มีมาตรฐานที่เป็นลักษณะเดียวกันกับที่ใช้ในการเสริมจมูก มาเหลาและปรับแก้ทรงตามความเหมาะสมของโครงหน้าของแต่ละบุคคล ซึ่งบางบุคคลทำคางออกมาแล้วถูกอกถูกใจดูงามและก็เป็นธรรมชาติก็นับว่าโชคดีไป แต่ว่าสำหรับบางบุคคลเสริมคางแล้วเป็นก้อน ดูแข็งราวกับเอาปูนมาฉาบก็จำต้องเสียเงินเสียเวลาไปแก้คางใหม่ เพราะว่าการเสริมคางให้เข้ากับหน้าเป็นสิ่งที่เรียกว่านิพพานเลยก็ว่าได้ ใครที่ต้องการจะเสริมคางหรือต้องการจะแก้คางใหม่แต่ไม่ทราบว่าจะไปเสริมคางที่ไหนดีที่ทำออกมาครั้งเดียวแล้วออกมาปังก็ตามเรามา เราจะมาบอกข้อมูลเกี่ยวกับการเสริมคางแล้วก็สถานพยาบาลเสริมคางพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ
เสริมคางมีกี่แบบ
โดยปกติการเสริมคางหลักๆจะมีด้วยกันอยู่สองแบบคือการเสริมคางด้วยซิลิโคนแล้วก็การเสริมคางด้วยกระดูกตนเอง ซึ่งทั้งสองประเภทนี้จะมีความไม่เหมือนกันทั้งวิธีการทำและก็วัสดุ ตลอดไปจนถึงราคาสำหรับการทำศัลยกรรมด้วย
เสริมคางด้วยอะไรได้อีกบ้าง
เสริมคางด้วยอะไรได้อีกบ้างที่ไม่ต้องผ่านมีดหมอและไม่ต้องผ่าตัด ต้องการหน้าเรียวงาม คางยุบสวยแบบ ไม่ต้องเจ็บตัวมีอยู่จริงไหม เราขอตอบว่ามีอยู่จริงค่ะและก็สามารถทำได้ด้วยวิธีเหล่านี้
ฉีดฟิลเลอร์ ที่เป็นการเพิ่มสารเติมเต็มชนิดไฮยาลูรอนิค แอซิด เข้าไปที่รอบๆคางเพื่อปรับบริเวณใบหน้าให้ดูหน้าเรียววีเชฟแบบทันตา ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น สะดวกรวดเร็วทันใจ ฉีดเสร็จก็ออกไปเดินสวยๆถ่ายเซลฟี้โชว์หน้าใหม่ได้เลย
การฉีดสลายไขมัน Meso Lipolysis หรือที่เราเรียกกันว่าเมโสแฟต ที่เป็นการฉีดวิตามินเข้าสู่ชั้นไขมันรอบๆใต้คางหรือรอบๆที่ต้องการที่จะให้มีขนาดเล็กลง เพื่อให้เกิดความกระชับ สัดส่วนได้รูปตามต้องการ ใครรู้สึกว่าเริ่มมีเหนียง คางเริ่มห้อยก็จัดไปเลยค่ะ
เสริมคาง เจ็บไหม
ขึ้นกับว่าเลือกเสริมคางโดยวิธีไหนค่ะ ถ้าเกิดเป็นการเสริมคางโดยใช้การฉีดฟิลเลอร์คางก็จะไม่เจ็บ ไม่บอบช้ำ ไม่ต้องพักฟื้น ได้ผลในทันทีแล้วก็ลดความเสี่ยงสำหรับการติดเชื้อโรคจากการผ่าตัดได้
เสริมคางบวมกี่วัน
หลังฉีดฟิลเลอร์คางจะค่อยๆหายบวมประมาณ 4-5 วัน หลังจากฉีดฟิลเลอร์แล้วอาจมีผลข้างเคียงจากการฉีดได้ ตัวอย่างเช่น ผื่นหรือจุดแดงรอบๆรอยเข็มที่สามารถหายไปเอง นอกนั้นอาจมีอาการบวมหลังฉีดคือเรื่องธรรมดา ถ้าเกิดมีอาการปวดผู้ป่วยสามารถทานยาพาราได้ตามอาการ
การเตรียมตัวก่อนการศัลยกรรมเสริมคาง
- เตรียมร่างกายให้แข็งแรง ไม่มีการเจ็บป่วย
- งดอาหารเสริมหรือยาที่มีคุณสมบัติเรื่องการแข็งตัวของเลือด ทั้งนี้คุณจำเป็นจะต้องแจ้งรายละเอียดแก่หมอถึงยาและก็อาหารเสริมรวมทั้ง สมุนไพรที่คุณกินอยู่
- กินอาหารให้อิ่มก่อนเข้ารับการศัลยกรรม เพราะว่าหลังการศัลยกรรมแล้วมักกินอะไรไม่ได้มาก
- แปรงฟัน บ้วนปากให้สะอาด ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- ถ้ามีโรคประจำตัว ควรจะแจ้งให้หมอรู้ก่อนจะมีการรับการผ่าตัด
การผ่าตัดเสริมคาง
การเสริมด้วยแท่งซิลิโคนสามารถทำได้ง่ายยิ่งกว่าเพราะว่าเป็นการผ่าตัดเล็กและก็มีแผลเพียงเล็กน้อยรอบๆร่องเหงือก สามารถปรับปรุงแก้ไขรูปทรงของคางได้ง่ายกว่า ส่วนการเลื่อนกระดูกคางเป็นการผ่าตัดใหญ่และก็จะต้องใช้โลหะเพื่อยึดตรึง เป็นการเปลี่ยนรูปที่ถาวร การแก้ไขในภายหลังทำได้ยากกว่า
การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดคาง
- หลังเข้ารับการผ่าตัดเสร็จให้เริ่มประคบเย็นโดยทันที เป็นช่วงเวลาประมาณ 48 ชั่วโมง โดยบางทีอาจจะใช้ผ้าขนหนูที่เปียกหมาดๆสัก 3 ผืนไปแช่ช่องแข็ง หลังจากนั้นก็ให้เอามาประคบสลับกัน อย่างสม่ำเสมอ
- พยายามเลี่ยงการกดแรงๆถูกจุด ที่มีซิลิโคนอยู่
- ถ้าเกิดพ้นระยะ 48 ชั่วโมงแล้วให้ปล่อยไว้เฉยๆไม่ควรที่ประคบร้อน หรือเย็นทั้งนั้น
- นอกจากนี้แล้วภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากการผ่าตัดให้นอนยกหัวสูง หรือนั่งหลับเพื่อลดอาการ บวมเนื่องจากสิ่งที่จำเป็นควรจะทราบเอาไว้ว่าอาการบวม จะมีมากในช่วงของ 3-4 วันแรก เป็นอาการปกติ
- การเข้ารับการผ่าตัดเสริมคาง จะผ่าจากด้านในปาก ดังนั้นก็เลยทำให้มีแผลในปาก เพราะฉะนั้น แล้วก็เลยเป็นเหตุผลให้ว่า ผู้ที่ทำต้องพยายามหลีกเลี่ยงการทานอาหารรสจัด อาหารร้อน ของดอง อาหารที่จะต้องใช้แรงบดในช่วงแรก
- ทำความสะอาดด้วยการบ้วนปากด้วยน้ำยาไม่ทำให้เกิดอาการแสบ หรือน้ำเกลือผสมน้ำยาบ้วนปาก ที่เจือจาง
- จากนั้นก็ตามด้วยการบ้วนน้ำเกลือเปล่าๆอีก 1 ครั้ง
- ภายในช่วง 3-4 วันแรกที่สำคัญห้ามใช้ลิ้นดันไหมในปากเล่นเด็ดขาด
- ให้ทานยาตามที่หมอสั่งให้หมดอย่าซื้อยามาทานเพิ่มเองเด็ดขาด ยาที่สามารถทานได้ คือยาพาราลดบวม ยาที่ใช้เพื่อการฆ่าเชื้อในกรณีมีอาการคลื่นไส้ อ้วกที่เป็นผลข้างเคียงมาจากการทานยาแก้อักเสบ Cloxacilline ก็ให้ทำการหยุดยาหรือใช้ Amoxicilline 500mg ทาน 1 เม็ดหลังรับประทานอาหาร 4 เวลา ( ตอนเช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน ) ทานยาสม่ำเสมอทั้งหมด 7 วันและจะสามารถทานยาแก้อาเจียนอ้วกได้ อย่างไรก็ตามควรจะขอความเห็นหมอ หากมีอาการไม่ดีเหมือนปกติ จากการทานยา และก็อย่าลืมแจ้งหมอทุกครั้งถ้าเกิดมีอาการแพ้ยา หรือมีโรคประจำตัว
- ในวัน 4 หลังเข้ารับการผ่าตัดให้แกะเฝือกที่ติดคางออกได้ ด้วยการนำน้ำอุ่นมาช่วยสำหรับในการคลำเบาๆให้พลาสเตอร์ค่อยๆลอกออก
- ที่สำคัญที่สุด อย่าลืมสอบถามรายละเอียดที่ได้รับมาจากหมอที่เราเข้ารับการทำศัลยกรรมเสริมคาง จะให้คำตอบได้ถูกต้อง แล้วก็เหมาะสมกับผู้ศัลยกรรมมากที่สุด แล้วก็ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของหมออย่างเคร่งครัด เพื่อให้คางของเรางามไม่มีปัญหาใดๆ
ก่อนที่จะมีการเสริมคางคุณจะต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดเสียก่อน เพราะว่าการเสริมคางถ้าเกิดทำกับสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐานอาจจะทำให้เสริมคางแล้วเป็นก้อนได้ ทางที่ดีควรจะเลือกสถานพยาบาลที่มีคนเข้าใช้บริการสูงที่สุด และได้รับการยอมรับจากผู้ที่เคยไปทำจะดีที่สุดจะทำให้คุณได้คางที่สวยเข้ารูปแล้วไม่ต้องไปเสียเวลาสำหรับการแก้คางใหม่อีกด้วย
