คาง นับเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งที่สำคัญมากของใบหน้า เพราะคางจะเป็นตัวกำหนดความสั้น ยาว ได้รูปของใบหน้า เสริมคางแผลนอก จึงเป็นตัวช่วยในการแก้ปัญหาเพื่อเพิ่มสัดส่วนใบหน้าให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีใบหน้ากลม หรือมีสัดส่วนของใบหน้าไม่ได้สัดส่วน มีโครงหน้าส่วนบน เช่น หน้าผาก หรือโหนกแก้มที่ยื่นออกมา แต่รูปคางที่ดูสั้น การเสริมคาง จะช่วยทำให้ใบหน้าแลดูมีมิติมากขึ้น และการเสริมคางยังเหมาะกับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้มีความเรียวเป็นใบหน้ารูปไข่ ที่เป็นรูปหน้าที่สาว ๆ ต่างพากันต้องการมากที่สุด
เสริมคางแผลนอก คืออะไร
เสริมคางแผลนอก คือการผ่าตัดเปิดแผลบริเวณใต้คาง โดยจะทำการเปิดแผลขนาดประมาณ 2 – 3 ซม. จะเป็นที่นิยมน้อยกว่าการ เสริมคางแผลใน เพราะวิธีนี้สำหรับบางคน อาจเกิดแผลเป็นนูน หรือ คีย์ลอยด์หลังผ่าตัด แต่การดูแลหลังผ่าตัดจะสะดวกมากกว่าแผลภายใน
ข้อดีของการเสริมคาง
- ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ จากเศษอาหารและน้ำลายในช่องปาก
- สามารถวางตำแหน่งซิลิโคนได้ง่ายและแม่นยำ
- แผลมีขนาดเล็กการดูแลจึงง่ายต่อการรักษาและแผลหายเร็ว
- คุณหมอจะเย็บล็อคซิลิโคน ป้องกันการเบี้ยวเอียงได้
- ใช้เลเซอร์ร่วมกับการผ่าตัดทุกเคส ช่วยห้ามเลือด ลดอาการบวมช้ำ
- ถ้าต้องขูดฟิลเลอร์ ควรใช้เทคนิคแก้คางแผลนอก ขูดสารเหลวได้เกลี้ยงกว่า
- เคสที่เนื้อคางห้อยย้อย สามารถตกแต่งผิวหนังส่วนเกินใต้คางได้
เทคนิคการเย็บกล้ามเนื้อคาง
บางครั้งสาเหตุของการคางสั้น คางบุ๋ม หรือ คางตัด เกิดจากการที่กล้ามเนื้อบริเวณปลายคางทั้งสองข้างอยู่ห่างกัน เกิดจากกรรมพันธุ์ ซึ่งการแก้ไขอาจทำได้โดยทำให้กล้ามเนื้อปลายคางทั้งสองข้างนั้นเข้ามาชิดกัน การเย็บกล้ามเนื้อคางเป็นการแก้ไขปัญหาคางสั้น คางตัด คางบุ๋ม ด้วยการเย็บกล้ามเนื้อปลายคางทั้งสองข้างเข้าหากัน โดยไม่ต้องเสริมซิลิโคน ทำให้คางดูยาวมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
การเตรียมตัวก่อนเสริมคาง
- หากท่านมีโรคประจำตัว แพ้ยา หรือตั้งครรภ์โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ หรือสามารถแจ้งได้ตั้งแต่ก่อนจองผ่าตัด
- หากต้องการใบรับรองแพทย์โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ต้อนรับ
- ไม่ต้องงดอาหาร ยาคุมกำเนิด หรือ ยาสำหรับโรคประจำตัว เช่น ยาลดความดันโลหิต หรือยารักษาโรคเบาหวาน
- งดชา กาแฟ ก่อนผ่าตัด 2 วันและเช้าวันผ่าตัด
- งดวิตามินอาหารเสริม ยาแก้ปวด ยาลดความอ้วน และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดสูบบุหรี่ 1 เดือนก่อนผ่าตัด
- ควรสระผมให้สะอาดเรียบร้อยก่อนวันผ่าตัด งดแต่งหน้าและใส่คอนแทกเลนส์มาในวันผ่าตัด และควรใส่เสื้อแขนสั้น หรือเสื้อมีกระดุมหน้ามาในวันผ่าตัด
- ควรถอดเครื่องประดับ เช่น สร้อยคอ หรือต่างหู ออกก่อนเข้าผ่าตัด
- ควรตัดเล็บให้สะอาด เพื่อสะดวกและสะอาดในการทำแผลที่บ้าน
- ควรมาก่อนเวลานัด 30-45 นาที เพื่อเตรียมตัวและทายาชารอผ่าตัด
บทความแนะนำ รักษาเส้นเลือดขอด จาก Rattinan.com
ขั้นตอนการผ่าตัด
- คุณหมอจะฉีดยาชาบริเวณคางด้วยเข็มที่เล็กมากร่วมกับมีการทายาชาก่อนผ่าตัดจึงไม่รู้สึกเจ็บ จะรู้สึกเพียงตึง ๆ เท่านั้น
- เปิดแผลใต้คางประมาณ 5-7 มม.
- เลาะเนื้อเยื่อ และเยื่อหุ้มกระดูกเพื่อวางซิลิโคน
- ใส่ซิลิโคนและเย็บล็อค
- เย็บปิดแผล
- ทั้งหมดนี้ใช้เวลาประมาณ 45-60 นาทีค่ะ
การพักฟื้นและดูแลตัวเองหลังทำที่บ้าน
- หลังผ่าตัด 3 วัน แนะนำให้ประคบเย็น เพื่อลดความเจ็บปวดและป้องกันการบวม โดยวางเจลรอบคาง
- หากมีเลือดออกซึมจากแผลออกมาที่พลาสเตอร์ให้แกะพลาสเตอร์ตามข้อถัดไปและทำแผลได้เลย
- ครบ 3 วันสามารถแกะพลาสเตอร์ได้ หากพลาสเตอรเหนียวใช้น้ำเกลือทาบนพลาสเตอร์เพื่อให้ลอกได้ง่ายขึ้น
- วันที่ 4 เป็นต้นไป แนะนำให้ประคบอุ่น
- หลังแกะพลาสเตอร์ให้ทำแผลด้วยเบตาดีน เช้า -เย็น ทุกวัน จนไหมหลุดหมด
- นอนศีรษะสูง ใช้หมอนล็อคคอ ห้ามนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ
- รับประทานยาตามที่แพทย์ให้อย่างเคร่งครัด
- งดล้างหน้า 7 วันหลังผ่าตัด ทำความสะอาดใบหน้าด้วยผ้าเปียกหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวแทนการล้างหน้า
- อาการบวม เขียวช้ำ เกิดได้ปกติหลังการผ่าตัด โดยเฉพาะใน 1-2 สัปดาห์แรก และจะค่อย ๆดีขึ้น
- หากครบ 3 สัปดาห์ไหมไม่หลุด ให้เข้ามาตัดไหม
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่ 2-3 เดือน
- งดออกกำลังกายหนัก 1 เดือน
- และถ้าหากเกิดอาการผิดปกติใด ๆ แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์โดยตรงจะดีที่สุด
ข้อควรระวัง
อาจไม่เหมาะกับคนที่มีเกิดรอยแผลเป็นได้ง่าย ดังนั้นในบางรายอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้ แต่หากทำการดูแลรักษาอย่างดีทาครีมลดรอยแผลเป็นอย่างสม่ำเสมอ รอยแผลเป็นก็อาจหายได้ โดยเฉลี่ยต้องใช้ระยะนานพอสมควร ประมาณ 1-3 เดือน