สำหรับผู้ที่มีรูปหน้าเหลี่ยมสามารถทำให้ดูยาวขึ้นได้ โดยที่ท่านไม่ต้องไปตัดกราม ไม่จำเป็นต้องใช้การดมยาสลบ ซึ่งปัจจุบันนี้แพทย์จะใช้วิธีการศัลยกรรมเสริมคางเป็นการแก้ไขปัญหา เพื่อให้ปลายคางยื่นออกมามากขึ้นและเติมเต็มรูปคางให้สมบูรณ์มากขึ้น และในการศัลยกรรมนั้นเมื่อทำการเสริมคางนอนตะแคงได้ไหม ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องศึกษาให้ละเอียด
ในการผ่าตัดเสริมคางนั้นสามารถแก้ปัญหาในด้านทำให้หน้าเรียว ช่วยให้หน้ามีมิติมากขึ้น สามารถแก้ปัญหาคางสั้น คางบุ๋ม และในการเสริมคางนั้นจะมีข้อห้ามสำหรับผู้ที่เป็นโรคลมชัก โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคเลือด และสตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร ไม่ควรทำอย่างยิ่ง
ในการผ่าตัดเสริมคางนั้นท่านอาจจะต้องระวังในเรื่องของความเสี่ยงในการเลือดออก บวม ช้ำ หลังการผ่าตัด และให้ระวังในเรื่องของการติดเชื้อที่แผล ซึ่งความเสี่ยงเหล่านี้จะลดลงหากท่านเข้ารับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและท่านจะต้องดูแลตนเองให้ดีทั้งก่อนผ่าตัดและหลังผ่าตัด
การเสริมคางสามารถทำได้ 2 ทาง ได้แก่ ทำจากภายนอกช่องปาก และทำจากด้านในช่องปาก การเสริมคางสามารถใช้กระดูกของตัวผู้เสริมตัดเลื่อนตำแหน่งให้ได้รูปมาทางด้านหน้าในตำแหน่งที่พอเหมาะ ซึ่งนอกจากจะทำให้หน้าได้รูปทรงมากขึ้นแล้ว ยังช่วยทำให้ช่องทางเดินหายใจกว้างขึ้นอีกด้วย
วัสดุสังเคราะห์ที่ใช้เสริมคางแพทย์จะนิยมใช้ ซิลิโคน Gore-Tex ไขมัน ในการระงับปวดขณะผ่าตัดสามารถใช้ยาชาเฉพาะที่หรือดมยาสลบ แล้วแต่ความเหมาะสม ซึ่งมีขั้นตอนในการทำดังนี้
แพทย์จะทำการกรีดผิวหนังหรือเยื่อบุช่องปาก เพื่อเปิดทางสำหรับใส่ซิลิโคนที่ผ่านการฆ่าเชื้อ โดยจะวางซิลิโคนที่เหลาอย่างพอดีกับโครงสร้างใบหน้าเพื่อให้รับกับความสวยงาม ส่วนใหญ่แผลมักยาวประมาณ 3 เซนติเมตร
การเตรียมตัวก่อนเสริมคาง
- ก่อนผ่าตัดแพทย์จะทำการตรวจสภาพร่างกายอย่างละเอียด และท่านจะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว การแพ้ยา ยาที่รับประทานเป็นประจำ เป็นต้น
- ก่อนผ่าตัด 2 สัปดาห์ ท่านจะต้องงดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ก่อนทำการผ่าตัด 2 สัปดาห์ ท่านจะต้องงดยาที่จะมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน และงดอาหารเสริม เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย
- ควรงดน้ำและอาหารก่อนทำการผ่าตัด 6 – 8 ชั่วโมง เนื่องจากเป็นการผ่าตัดเล็ก
วิธีดูแลตัวเอง หลังเสริมคาง
- ควรนอนโดยใช้หมอนรองคอช่วย และงดการนอนตะแคง 1 เดือน
- ควรทำความสะอาดแผลเพื่อป้องกันไม่ให้แผลติดเชื้อ โดยใช้สำลีชุบน้ำเกลือเช็ดล้างแผลให้สะอาดอยู่เสมอ ส่วนการผ่าตัดเสริมคางแผลในให้งดแปรงฟัน 1-2 สัปดาห์หลังทำ และทำความสะอาดด้วยน้ำยาบ้วนปากแทน
- การเสริมคางแผลนอกจะมีกำหนดตัดไหมอยู่ที่ 14 วัน ส่วนการเสริมคางแผลในแพทย์จะใช้ไหมละลาย โดยไหมจะละลายไปเองในช่วง 2-4 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- งดรับประทานอาหารหมักดอง อาหารที่ร้อนจัด เย็นจัด และอาหารรสเผ็ด
- วิธีดูแลตัวเองหลังเสริมคาง ควรหมั่นประคบเย็น โดยการทาบเบาๆ บริเวณคาง เป็นเวลา 3 วัน จากนั้นเปลี่ยนเป็นประคบอุ่นอีก 3 วัน ซึ่งจุดที่ต้องประคบมีทั้งหมด 4 จุดดังนี้
- บริเวณข้างคางทั้งด้านซ้ายและขวา
- บริเวณด้านบนคาง ใต้ริมฝีปากล่าง
- บริเวณใต้คาง
- งดการเท้าคางหรือให้คางได้รับการกระทบกระเทือนรุนแรง เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของซิลิโคน
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ 1 เดือน
- รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น ยาลดบวม ยาแก้ปวด
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการผ่าตัดเสริมคาง
- อาการชาบริเวณคาง ริมฝีปาก ฟันล่างด้านหน้า เนื่องจากเส้นประสาทถูกรบกวนจากการผ่าตัด แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะเกิดเพียงชั่วคราว อาการชาจะค่อย ๆดีขึ้นตามลำดับและมักจะฟื้นได้ในเวลาอันสั้น ประมาณ 1-3 เดือน
- การเอียงบิดของแท่งคาง มักพบได้ช่วงหลังทำใหม่ ๆ จนถึงประมาณ 1 เดือน เนื่องจากในตอนแรกคางจะวางตัว
เฉย ๆ ไม่มีตัวอะไรไปยึดติดกระดูก ซึ่งร่างกายจะยึดแท่งซิลิโคนได้ด้วยตัวมันเอง ในเวลาประมาณ 1 เดือนขึ้นไป
หากไปกระแทกหรือกระทบอะไรแรง ๆ ก็อาจส่งผลให้คางเอียงได้เหมือนกัน
การแก้ไขขั้นต้นแพทย์สามารถใช้มือดัดให้เข้าที่ได้ แต่ถ้าเอียงมากเกินไปจะต้องผ่าใหม่ ซึ่งคนที่เสริมคางไปแล้วถ้าไม่อยากต้องมาตามแก้ไขให้ยุ่งยาก ก็ควรระมัดระวังตนเองไม่ให้มีอะไรไปกระแทกที่คางแรง ๆ ปัญหานี้ก็จะไม่มีอะไรที่น่ากังวล
บทสรุป
เสริมคางนอนตะแคงได้ไหม ซึ่งท่านไม่ควรนอนตะแคงหลังการทำการผ่าตัด 1 เดือน อย่างที่เคยกล่าวไว้แล้วว่าก่อนที่ท่านจะทำการเสริมคางท่านจะต้องทำการศึกษาข้อมูลให้ละเอียดไม่ว่าจะเป็นสถานพยาบาล แพทย์ผู้ให้บริการซึ่งจะต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการเข้ารับบริการ
