ปัจจุบันนี้สาว ๆ หลายคนสนใจการศัลยกรรมเสริมคางกันมากขึ้น เพราะการเสริมคางเป็นการปรับรูปหน้าให้มีสัดส่วนตามความต้องการ และการเสริมคางจะทำให้หน้าของคุณดูเรียว และได้รูปมากขึ้น การเสริมคางเหมาะสำหรับคนที่มีคางสั้น คางบุ๋ม หรือคางเบี้ยว และในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยสำหรับการทำศัลยกรรมที่หลากหลาย ไม่ต้องดมยาสลบก็สามารถเสริมคางได้ สาว ๆ คนไหนที่ต้องการเสริมคาง ก็ควรศึกษาข้อมูลให้ระเอียดเกี่ยวกับการเสริมคางให้ดีก่อนนะค่ะ นอกจากจะหาข้อมูลการทำศัลยกรรมแล้วการหาสถานพยาบาลก็สำคัญ คุณจะต้องหาสถานพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ มีทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการศัลยกรรมคางโดยตรงจะดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองค่ะ
การเสริมคางมีกี่แบบ
สำหรับใครที่ต้องการเสริมคางแต่ยังไม่รู้ว่าการเสริมคางมีกี่แบบ ทุกวันนี้การเสริมคางสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบดังนี้
- การเสริมคางแบบฉีด
ในการฉีดเสริมคางนั้นมีทั้งการฉีดเสริมคางด้วยฟิลเลอร์ และฉีดด้วยไขมัน ซึ่งวิธีนี้ทำแล้วจะไม่อยู่ถาวรเพราะทังสองแบบนี้สามารถสลายได้เองในเวลา 2-3 ปีแล้วแต่ละบุคคล บางคนยังไม่ถึง 2 ปีก็ต้องต้องมาฉีดเติม
- การผ่าตัด
เป็นการผ่าตัดด้วยการใส่ซิลิโคนการผ่าตัดใส่ซิลิโคนสามารถอยู่ได้ถาวร เพราะซิลิโคนสามารถออกแบบรูปทรงคางของคนไข้ได้ตามความต้องการ และที่สำคัญดูเป็นธรรมชาติที่สุดอีกด้วย
การเสริมคางด้วยซิลิโคนสามารถทำได้ 2 แบบดังนี้
- การเสริมคางแผลนอก
ขั้นตอนการเสริมคางคุณหมอจะทำการเปิดแผลบริเวณใต้คางอยูที่ประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร เพื่อวางตำแหน่งของซิลิโคน การวางซิลิโคนให้วางเฉียงลงเพื่อให้หน้าดูเรียวขึ้น และปรับแต่งรูปหน้าคางตามโครงหน้าของคนไข้ การศัลยกรรมในรูปแบบนี้ใช้เวลาในการทำประมาณ 30-45 นาทีขึ้นอยู่กับความยากง่ายของคนไข้แต่ละเคส
ข้อดีของการเสริมคางแผลนอก
- ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อจากเศษอาหารและน้ำลาย
- สามารถวางต่ำแหน่งซิลิโคนได้ง่าย
- แผลมีขนาดเล็กง่ายต่อการดูแลและรักษา
- ซิลิโคนจะถูกเย็บเพื่อป้องกันไม่ให้เบี้ยวเอียงได้
- ใช้เลเซอร์ร่วมกับการผ่าตัดทุกครั้งเพื่อช่วยห้ามเลือดและลดอาการบวม
- เคสนี้สามารถตกแต่งผิวหนังส่วนเกินใต้คางได้
ข้อควรระวังการเสริมคางแผลนอก
- การเสริมคางแผลนอกอาจไม่เหมาะกับคนที่เกิดรอยแผลเป็นได้ง่าย ดังนั้นการทำศัลยกรรมเสริมคางรูปแบบนี้เกิดรอยแผลเป็นแน่นอน แต่หากทำการรักษาอย่างถูกวิธีและทายาตามหมอสั่งทุกครั้ง รอยแผลเป็นก็อาจหายได้แต่ต้องใชเวลาประมาร 3 เดือน
- การเสริมคางแผลใน
วีการผ่าตัดเสริมคางแผลในจะต้องเปิดเหงือกด้านในกับริมฝีปากล่างให้มีความยาวประมาณ 2 เซนติเมตร จากนั้นแพทย์จะแยกเยื้อหุ้มบริเวณขอบล่างของคางออก แล้ววางแท่งซิลิโคนเข้าไปให้พอดีกับตำแหน่งที่ต้องการ หลังจากนั้นก็ทำการปิดแผล
ข้อดีของการเสริมคางแผลใน
- ไม่ทำให้เป็นแผลเป็นเหมาะกับคนที่มีแผลเป็นนูนง่าย
ข้อควรระวัง
- ดูแลทำความสะอาดเพื่อลดการติดเชื้อ
- ระมัดระวังเรื่องเศษอาหารตกค้างในช่องปาก
- ระวังการกระแทรกเพื่อไม่ให้ซิลิโคนผิดตำแหน่ง
การดูแลตัวเองหลังเสริมคาง
- ประคบเย็นตรงคางให้บ่อยที่สุด นาน 2 วัน หรือ จนกว่าจะยุบบวม
- นอนศีรษะสูง 2 วัน สามารถนอนตะแคงศีรษะได้
- ระมัดระวังเวลายิ้มอย่ายิ้มกว้างมากในช่วงแรก
- สามารถใช้ลิปสติกได้ 1 อาทิตย์หลังผ่าตัด
- งดรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดจัดหรือแข็งมาก
- ดื่มน้ำโดยใช้หลอดและหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหรืออาหารที่ร้อนหรือเย็นเกินไป
- ผักผลไม้ที่นำมารับประทานควรล้างให้สะอาดไม่ควรกินปลาดิบหรือเนื้อที่ไม่สุกหรืออาหารที่มีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรคได้มาก
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกฮอล์ใน 2 อาทิตย์แรกหลังการผ่าตัด
- งดการสูบบุหรี่ 3 อาทิตย์หลังการผ่าตัด
- ดื่มน้ำมากๆ
- บ้วนปากบ่อยๆ ด้วยน้ำเกลือหรือน้ำสะอาดหรือน้ำยาบ้วนปาก
- ทำกิจวัตรประจำวันที่ไม่หนักได้ตามปกติ งดออกกำลังกายหนัก 10 วัน
- ระวังการกระแทกบริเวณคางหรือนั่งค้ำดันคาง
- งดออกกำลังกายที่อาจต้องมีการปะทะเช่นฟุตบอล บาสเกตบอล แฮนด์บอลประมาณ 4 อาทิตย์
- สามารถเอาผ้าพันแผลออกได้ภายใน 1-5 วัน
- ต้องกลับไปให้แพทย์ตรวจดูอาการในวันที่ 7 -10 วัน
ทั้งหมดนี้ก็เป็นการศัลยกรรมเสริมคางที่เราแนะนำให้คุณแบบคร่าว ๆ หากคุณหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการเสริมคางก็สามารถสอบทางไปยังคลินิกเสริมความได้เลย เพราะในปัจจุบันคลินิกเสริมความงามมีมากมายและคุณควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และแพทย์จะต้องมีใบประกอยวิชาชีพอย่างถูกต้องจะดีที่สุดนะคะ