เป็นอีกทางเลือกสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการอยากมีดั้งจมูกโด่ง ๆ แต่ไม่อยากเจ็บตัวมากนัก จึงเลือกวิธีการเสริมจมูกด้วยการร้อยไหมจมูก แท้ที่จริงแล้วการผ่าตัดเสริมจมูกให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากกว่า แต่สาว ๆ บางท่านกลัวการผ่าตัดเอามาก ๆ หรือในเคสที่จมูกค่อนข้างโด่งอยู่แล้วต้องการให้สันจมูกหรือปลายจมูกคมขึ้นเพียงเล็กน้อย ดูเป็นธรรมชาติ จึงตัดสินใจใช้การร้อยไหมที่จมูก เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจนและไม่เจ็บตัวมากอีกด้วย ถือเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ให้กับสาว ๆ ได้เป็นอย่างมาก
ร้อยไหมจมูก คืออะไร
การนำไหมละลายร้อยเข้าไปในจมูก เพื่อให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนในผิวที่มากขึ้น โดยการร้อยไหมจมูกนั้น จะเหมาะกับคนที่มีเนื้อจมูกน้อยและปีกจมูกกว้าง เพราะช่วยให้ดั้งดูโด่งเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องศัลยกรรม ไม่ต้องกลัวทะลุ นอกจากนี้การร้อยไหมยังสามารถทำได้แบบเฉพาะจุดอีกด้วย เช่น สามารถเติมเต็มเฉพาะบริเวณสันจมูกให้ชัดได้ สามารถปรับแก้รูปทรงเฉพาะส่วนปลายจมูกให้เชิดขึ้นได้ หรือจะเก็บปีกจมูกให้เล็กลงก็สามารถทำได้เช่นกัน
ข้อดี ของการร้อยไหมจมูก
ข้อดีที่เด่นชัดที่สุดของการร้อยไหมจมูกก็คือ เป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากปรับรูปทรงของจมูกแต่ไม่อยากทำการผ่าตัด เราสามารถเลือกได้ว่าจะร้อยไหมให้จมูกโด่งขึ้น ลดปีกจมูก หรือปรับโครงจมูกให้เป็นไปในแบบที่ต้องการ ผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงก็เห็นได้ทันที ไม่ต้องรอการพักฟื้นที่ยาวนาน อีกอย่างเส้นไหมก็ไม่ได้ตกค้างอยู่ในร่างกายตลอดไป มีวันที่มันละลายหายไปหมด ระยะเวลาขึ้นอยู่กับชนิดของไหม บ้างก็ 6-8 เดือน บ้างก็นานถึง 1 ปี ที่สำคัญเส้นไหมยังมีส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว กระตุ้นให้ผิวตื่นตัวและปรับเสริมความแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
เตรียมตัวให้พร้อมก่อนร้อยไหม
- ควรงดยา อาหารเสริม และวิตามินที่มีผลต่อการทำงานของเกล็ดเลือดและการแข็งตัวของเลือด อย่างเช่น ยาแอสไพริน อาหารเสริมจำพวกวิตามินอี ฯลฯ อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนร้อยไหม
- ผู้ที่ร้อยไหมจะต้องไม่เป็นแผลคีลอยด์ ไม่แพ้ยาชา และไม่เป็นโรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดรุนแรง
- ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชม. ก่อนทำ
ขั้นตอนการร้อยไหม
- เมื่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์โครงสร้างของปัญหาเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจะต้องทำการเตรียมผิวให้สะอาด 100% ด้วยการ Cleansing ล้างเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนให้เรียบร้อย หลังจากนั้นจะทายาชาบริเวณที่ต้องการยกกระชับ ทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที จึงเช็ดออกให้สะอาด พร้อมเข้าสู่ขั้นตอนการฆ่าเชื้อทำความสะอาดแบบครบวงจรอีกครั้งหนึ่ง แพทย์จะทำการฉีดยาชาบล็อกเพิ่มให้อีกรอบหนึ่งเพื่อป้องกันคนไข้เจ็บ รอยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 30 วินาที ก็เริ่มเข้าสู่ ขั้นตอนการร้อยไหม
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะนำเส้นไหมที่อยู่ตรงปลายเข็มเข้าไปยึดตามเนื้อเยื่อผิว โดยจะใช้วิธีการร้อยเรียงเส้นไหมแบบเป็นมิติ แพทย์จะพิจารณาตามโครงสร้างโครงหน้าของคนไข้เป็นหลัก ในเวลาเพียง 30 – 50 นาที เมื่อร้อยไหมเสร็จแล้ว ทางแพทย์จะประคบเย็นบริเวณที่ร้อยไหมเพื่อไม่ให้ใบหน้าเราบวม สามารถกลับบ้าน และใช้ชีวิตได้ปกติ อาการบวมต้องใช้เวลาประมาณ 4-7วัน อาการจะลดน้อยลง และใบหน้าจะเข้ารูปประมาณ 1-2 เดือน หากมีอาการที่ผิดปกติแก่ร่างกายควรเข้าพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
การดูแลหลังจากการร้อยไหม
การดูแลหลังจากการร้อยไหมเป็นสิ่งสำคัญที่ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ดังรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ห้ามอ้าปากกว้าง
หลังจากร้อยไหม ไม่ควรอ้าปากกว้าง เนื่องจากไหมที่ร้อยจะรั้งและดึงผิวไว้ ทำให้เกิดการตึงบริเวณใบหน้า ซึ่งอาการดังกล่าวเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นหลังจากการร้อยไหม นอกจากนี้ จำนวนเส้นไหมที่ใช้ในการร้อยก็เป็นปัจจัยหนึ่ง เพราะหากใช้ไหมเยอะในการร้อย อาจจะเกิดอาการตึง ได้มากกว่า ร้อยด้วยไหมจำนวนน้อย โดยอาการดังกล่าวจะเป็นมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับเคสของแต่ละบุคคล
- ห้ามทำ Laser หลังร้อยไหม
หลังจากการทำร้อยไหม ไม่ควรทำเลเซอร์หรือหัตถการใด ๆ กับใบหน้าประมาณ 2 สัปดาห์ ควรพักหน้า 2 สัปดาห์ เพราะความร้อนจะกระตุ้นให้ผิวเกิดการอักเสบได้ หรืออาจจะทำให้ไหม เกิดการเคลื่อนที่ได้
- ห้ามนวดหน้า
หลังการร้อยไหม ไม่ควรนวดหน้าแรง ๆ ในตำแหน่งที่ร้อยไหม ประมาณ 2 เดือน เพราะอาจเกิดอาการผิวหนังบวมแดง หรือ ตุ่มตามแนวที่ร้อยไหมได้ รวมถึงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- ห้ามแต่งหน้า 4 ชม.
หลังการร้อยไหม ไม่แนะนำให้แต่งหน้า และหลีกเลี่ยงเครื่องสำอาง สัมผัสบริเวณผิวหน้า ตรงที่ร้อยไหม เพราะอาจเกิดการติดเชื้อได้ง่ายโดยเฉพาะ วันแรกหลังจากร้อยไหม พอวันรุ่งขึ้น ก็สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ
- ห้ามออกกำลังกาย
หลังจากร้อยไหม ควรงดการออกกำลังกายอย่างหนัก จนกว่าอาการปวดบวมจะทุเลา
- ห้ามดื่มแอลกอฮอล์
หลังจากร้อยไหม ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์ เพราะแอลกอฮอล์ มีส่วนกระตุ้นให้ผิวอักเสบ ควรงดแอลกอฮอล์ ประมาณ 2 สัปดาห์
- ห้ามแกะเกา บริเวณแผล
หลังจากร้อยไหม ควรหลีกเลี่ยงการแกะเกา บริเวณแผลที่ร้อยไหม เพราะอาจเกิดการติดเชื้อได้ง่าย โดยหลังจากร้อยไหม แพทย์จะมีการปิดพลาสเตอร์ที่แผลให้ เพื่อป้องกันเชื้อโรค โดยสามารถแกะพลาสเตอร์ออกได้ในวันรุ่งขึ้น