รอยไหมเจ็บไหม มีขั้นตอนการทำอย่างไรบ้าง มาดูกันเลย

การร้อยไหมเป็นวิธีการยกกระชับผิวที่ใช้ได้ทั้งกับผิวหน้าและก็ผิวกาย เพียงแต่นิยมใช้กับผิวหน้ามากกว่า ช่วยแก้ไขปัญหาผิวหนังบนบริเวณใบหน้าหย่อนคล้อย ริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณแก้ม ร่องจมูก ขากรรไกร หน้าผาก โดยใช้ไหมละลายจำนวนหลายร้อยเส้นเข้าไปในใต้ผิวหนัง วิธีการทำแบบนี้เป็นเหตุให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อใต้ผิวและก็มีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่บริเวณรอบ  ๆ เส้นไหม ทำให้ผิวหน้าถูกดึงรั้งจนเต่งตึง ทั้งช่วยทำให้โลหิตไหลเวียนมาเลี้ยงผิวหนังรอบ ๆ ดังกล่าวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไหมที่ใช้ในกระบวนการนี้มีให้เลือกหลายประเภท แต่ว่าที่นิยมใช้กันเยอะที่สุดเป็นไหมละลาย PDO ทำมาจากโพลีไดออกซาโนน (Polydioxanone) ซึ่งใช้สำหรับการเย็บแผลผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจ มักไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้แล้วก็ได้รับการยืนยันความปลอดภัยจาก อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) และไม่ควรเป็นกังวลใจว่าเส้นไหมพวกนี้จะติดอยู่ใต้ผิวหนัง เพราะไหมจะค่อย ๆ เสื่อมสภาพไปเองภายใน 8 เดือน มักมีปัญหาเกิดขึ้นบ่อยว่าการร้อยไหมเจ็บไหม เพราะว่าหลายคนต้องการทำแต่ว่าก็กลัวเจ็บ วันนี้ทางเรามีขั้นตอนการทำร้อยไหมว่ามีอะไรบ้างที่ควรจะรู้ เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจของคุณได้ง่ายมากยิ่งขึ้น พร้อมแล้วไปดูขั้นตอนต่าง ๆ ของการร้อยไหมได้เลย

รอยไหมเจ็บไหม รักษายังไง

ขั้นตอนการร้อยไหมมีอะไรบ้าง

1. ขั้นตอนเตรียมพร้อมก่อนร้อยไหม

แพทย์จะประเมินโครงสร้างบริเวณใบหน้าในแต่ละเคสว่าปัญหาที่คนไข้กังวลเหมาะสมจะร้อยไหมหรือไม่ คนส่วนมากต้องการร้อยไหมหน้าเรียว V-Shape ซึ่งเหมาะสมกับเคสที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก การร้อยไหมจะช่วยยกกรอบหน้าได้ดี แต่ว่าในผู้ที่มีโครงสร้างของกระดูกและมีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ โหนกแก้มสูง ไขมันแก้มเยอะ แพทย์แนะนำให้ทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ดังเช่นว่า การฉีดโบท็อก การฉีดเมโสแฟต เพื่อผลลัพธ์ออกมาตรงตามความต้องการของคนไข้เยอะที่สุด

เมื่อแพทย์ประเมินความเหมาะสมแล้ว จึงไปสู่กระบวนการเตรียมความพร้อมของร่างกาย คืองดการทานยายา อาหารเสริมบางประเภท อย่างเช่น ยาแอสไพริน วิตามินต่าง ๆ เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนทำหัตถการ ถ้าหากเป็นยาที่จะต้องทานประจำควรจะขอคำแนะนำหมอที่ทำการรักษาก่อนหยุดยานั้น ๆ  เพราะบางที่คนไข้อาจจะไม่สามารถหยุดยาตัวนั้นได้ แพทย์ก็จะหาทางแก้ไขให้กับคนไข้ได้

2. ขั้นตอนการร้อยไหม

แพทย์จะใช้ไหมละลายก้างปลาสำหรับการร้อยโดยที่คุณสามารถเลือกเส้นไหมได้ เพราะว่าเส้นไหม มีให้เลือก 2 เส้นคือ PDO (อยู่ได้ 4-5 เดือน) และก็ PCL (อยู่ได้ 1 ปี) โดยขั้นตอนการร้อยไหมเป็นส่วนที่คนไข้หลายคนกังวลว่า ร้อยไหมเจ็บไหม ฉีดยาชาได้รึเปล่าอันที่จริงแล้วแพทย์มีการฉีดยาชาให้ค่ะ ในระหว่างการร้อยไหมจะไม่รู้สึกเจ็บ จะเจ็บแค่ตอนฉีดยาชาเพียงแค่นั้น หลังร้อยไหมเห็นผลชัดเจนโดยทันที

วิธีการร้อยไหมแพทย์จะใช้เข็มนำเส้นไหมละลายที่มีเงี่ยง(ไหมก้างปลา) สอดลงในชั้นผิวหนัง ผิวจะถูกเงี่ยงเกี่ยวขึ้นมาตามแนวเส้นไหม คล้ายตะขอดึง ถ้าหากร้อยไหมด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง จะเกิดเป็นเส้นใยอิลาสตินช่วยประคองผิว สามารถดึงผิวที่หย่อนขึ้นได้ ช่วยทำให้ปรับรูปหน้าให้กระชับรวมทั้งสมส่วนมากยิ่งขึ้น

3. ขั้นตอนการดูแลตนเองหลังการร้อยไหม

หลังร้อยไหมเสร็จทันที อาจมีอาการบวมเข็มหรือเกิดรอยฟกช้ำตามแนวการสอดไหม แพทย์จะให้กินยาแก้อักเสบประมาณ 3 วัน อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ ปกติหลังผ่านการร้อยไหมในช่วง 3-4 วันแรกจะบวมมากขึ้นเรื่อย ๆ  และหลังจากนั้นอาการบวมจะเริ่มยุบตัวลงจนเข้าที่เข้าทางใน 14 วันค่ะ ถ้ามีอาการบวมแดงเยอะขึ้น ปวดเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ให้รีบกลับมาพบแพทย์เพื่อวิเคราะห์แล้วก็รับยารับประทานเพิ่ม ในระหว่างนี้ควรจะเลี่ยงกิจกรรมที่เกี่ยวกับความร้อนและควรจะงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ด้วยนะคะ เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเองและควรปฏิบัติตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

ข้อดีของการร้อยไหม

  • ช่วยขจัดปัญหาผิวหน้าที่หย่อนคล้อย ซึ่งหลังจากการ ร้อยไหม สามารถอยู่ได้นานแล้วก็สามารถทำให้รูปบริเวณใบหน้าเรียวเป็นรูปทรงวีเชฟ
  • การร้อยไหม นอกเหนือจากที่จะได้ผลโดยทันที หลังทำแล้ว ไหมจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการยุบตัวของคอลลาเจนใต้ผิว ซึ่งจะมีผลให้ผิวมีการกระชับตึงขึ้นในทันที
  • ระหว่างที่ไหมละลาย อยู่ใต้ผิวหนัง จะมีผลให้เกิดการกระตุ้น สร้างเส้นโลหิตใหม่ ทำให้ผิวมีการไหลเวียนของโลหิตที่ดียิ่งขึ้น ทำให้ผิวเต่งตึงยกกระชับเยอะขึ้น แล้วก็เห็นผลต่อเนื่องนาน
  • ร้อยไหม ด้วยเทคนิคพิเศษไม่บวมไม่ช้ำ “ไม่เจ็บ” โดยหมอเชี่ยวชาญมากประสบการณ์ จัดการกับปัญหาความหย่อนคล้อย ที่ตอบโจทย์ให้กับสาว ๆ อย่างดีเยี่ยม

และใครที่คิดจะร้อยไหมก็ต้องศึกษาข้อมูลให้ดีซะก่อนเพื่อจะได้ไม่เสียใจทีหลัง เพราะว่าการร้อยไหมสามารถได้ผลหลังทำก็จริง ถ้าเราเลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานบางทีอาจทำให้เราเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา ทางที่ดีก่อนทำควรศึกษารายละเอียดและก็เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานรวมทั้งเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ทางด้านการร้อยไหมจะดีที่สุดค่ะ