ร้อยไหมคือ อะไร เหมาะกับใครบ้าง ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล

การร้อยไหมคือ เทคนิคที่นำมาใช้ช่วยยกกระชับ ฟื้นฟูสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอยแล้วก็ปรับรูปหน้าให้ดูเรียว ด้วยไหมละลายโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศเกาหลี หลักการของเทคนิคนี้เป็นการใช้ไหมเส้นเล็กจำนวนมากมาร้อยเป็นเครือข่าย รอบ ๆ ใต้ผิวหนังที่ร้อยไหมเข้าไปจะถูกกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดการอักเสบ ก่อให้เกิดการผลิตเส้นโลหิตใหม่ ส่งผลทำให้เกิดการกระตุ้นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน ให้สร้างคอลลาเจนใหม่มาพันรอบแนวเส้นไหม ส่งผลให้มีการดึงรั้งผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าเต่งตึงแล้วก็กระชับ พร้อมกับช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดมาเลี้ยงชั้นผิวหนังมากขึ้นด้วย

การร้อยไหม เหมาะกับใครบ้าง

การร้อยไหม เหมาะกับคนที่มีความหย่อนคล้อยของแก้ม รูปหน้าไม่เรียวกระชับ คนที่ต้องการปรับให้รูปหน้าเรียวได้รูปมากขึ้น โดยมากปัญหานี้จะเกิดกับคนที่เริ่มมีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป สำหรับคนที่ยังมีอายุไม่เยอะ แต่ว่ารูปหน้ามีความหย่อนคล้อย ก็สามารถร้อยไหมได้เช่นเดียวกัน

กรณีผิวหนังหย่อนคล้อยมาก ๆ และก็มีการยุบของผิวตามวัย การร้อยไหมเพียงอย่างเดียว ไม่ช่วยลดความหย่อนคล้อยได้ทั้งหมด ควรจะมีการใช้โบท็อกซ์ หรือ ฟิลเลอร์ ร่วมด้วย

การร้อยไหมมีประโยชน์อย่างไร

การร้อยไหมเป็นวิธียกกระชับผิวหน้า ช่วยแก้ไขปัญหาผิวหนังบนใบหน้าหย่อนคล้อย ริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณแก้ม ร่องจมูก ขากรรไกร หน้าผาก โดยใช้ไหมละลายจำนวนหลายเส้นร้อยเข้าไปในใต้ผิวหนัง การทำเช่นนี้ก่อให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อใต้ผิวรวมทั้งมีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่บริเวณรอบเส้นไหม ทำให้ผิวหน้าถูกดึงรั้งจนเต่งตึง ทั้งยังช่วยทำให้โลหิตไหลเวียนมาเลี้ยงผิวหนังรอบ ๆ ดังกล่าวมากยิ่งขึ้น โดยมากจะใช้ไหมละลาย PDO ทำมาจากโพลีไดออกซาโนน (Polydioxanone) ซึ่งใช้สำหรับการเย็บแผลผ่าตัดเส้นโลหิตหัวใจ มักไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ไหมจะค่อย ๆ สลายตัวไปเองภายใน 8 เดือน

ร้อยไหมคือ อะไร ปลอดภัยไหม

ร้อยไหม กี่วันได้ผล

หลายคนอาจสงสัยว่าร้อยไหม กี่วันได้ผล จำเป็นต้องรอนานไหม เรื่องจริงแล้วการร้อยไหมสามารถเห็นผลได้ในทันทีหลังทำ หลังจากนั้นจะค่อย ๆ เห็นผลชัดเจนขึ้นตามลำดับ โดยไหมที่แพทย์ใช้ในปัจจุบันเป็นไหมเงี่ยงหรือไหมก้างปลาที่หลายท่านเข้าใจ คุณสมบัติเด่นของไหมก้าง คือ เมื่อทำการร้อยไหมลงในชั้นผิว ตัวเงี่ยงไหมที่คล้ายตะขอจะดึงผิวขึ้น จึงสามารถยกกระชับแก้มที่หย่อนคล้อยได้โดยทันที

ร้อยไหม อยู่ได้กี่ปี

ร้อยไหมก้าง มีฤทธิ์สำหรับการยกกระชับดึงบริเวณใบหน้าให้เรียวตึง อยู่ได้นาน 8 เดือน – 1 ปี ซึ่งการร้อยไหมก้างทั่ว ๆ ไปสามารถอยู่ได้นานถึง 1 ปี ถ้าเป็นไหม Diamond จะสามารถอยู่ได้นานตั้งแต่ 2-5 ปี ซึ่งทำให้ลดอัตราการเกิดร้อยซ้ำได้ค่ะ

ร้อยไหมเรียบ มีฤทธิ์ช่วยทำให้ผิวแน่นเฟิร์ม กระตุ้นการผลิตคอลเลาเจนใต้ผิว อยู่ได้นาน 4 – 6 เดือน

ผลข้างเคียงจากการ ร้อยไหม

หลังการร้อยไหม จะมีอาการบวม แดง เกิดรอยนูน แล้วก็พบรอยฟกช้ำ ผิวหน้าไม่เรียบตามแนวร้อยไหม จากอาการบวมเข็ม เนื่องจากว่าเนื้อเยื่อได้รับการกระตุ้น และจะรู้สึกตึงผิวหน้าเหมือนไหมดึงรั้งในช่วงแรก อาการเหล่านี้จะหายได้เองในช่วง 1-2 อาทิตย์ รวมทั้งสามารถใช้ชีวิตประจำวันตามเดิม การร้อยไหมจะได้ผลชัดเจนในช่วงประมาณ 2 เดือน บางรายอาจมีความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อ จากการใช้เข็มสอดเส้นไหมจำนวนมากเข้าไปที่ผิวหนัง หรือเกิดพังผืดใต้ผิวหนัง

ในกรณีที่หมอที่ทำไม่มีประสบการณ์หรือทำผิดวิธี ตัวอย่างเช่น ร้อยไหมเข้าไปตื้นเกินไป หรือผิดจังหวะจะก่อให้เกิดพังผืดที่ไม่พึงประสงค์ รอบ ๆ ผิวหนังชั้นบนได้

ข้อดีของการรอยไหม

ข้อดีของการร้อยไหม จะช่วยขจัดปัญหาผิวหน้าที่เกิดการหย่อนคล้อย ซึ่งหลังจากการร้อยไหม ผลลัพธ์จะสามารถอยู่ได้นานและทำให้รูปหน้าเรียวเป็นทรงวีเชฟ โดยการร้อยไหมจะได้ผลโดยทันที หลังจากทำแล้ว เส้นไหมจะช่วยทำให้เกิดการยุบตัวของคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวหน้ามีการกระชับตึงขึ้นในทันที รวมทั้งในขณะที่ไหมกำลังละลายอยู่ใต้ผิว จะมีผลให้มีการกระตุ้น สร้างเส้นโลหิตใหม่ นำมาซึ่งการไหลเวียนของโลหิตที่ดียิ่งขึ้น ด้วยเหตุดังกล่าวก็เลยทำให้ผิวหน้าเต่งตึงกระชับเยอะขึ้น แถมผลลัพธ์ยังอยู่ได้นาน

ข้อเสียของการร้อยไหม

ข้อเสียของการร้อยไหมคือ เจ็บแต่มีการฉีดยาชา และก็หลังจากการร้อยไหมเสร็จ อาจมีอาการบวมแดงเกิดรอยฟกช้ำตามแนวการสอดไหม และหากร้อยไหมที่สถานพยาบาลที่ใช้ไหมไม่ได้ประสิทธิภาพ ทำให้ไหมไม่ละลาย จับกุมตัวกันเป็นก้อน อาจจะส่งผลให้มีหนองขึ้นตามไหม เพราะฉะนั้นนอกเหนือจากการตัดสินใจที่จะร้อยไหมเพื่อไขปัญหาบริเวณใบหน้าหย่อนคล้อยแล้ว การศึกษาหาข้อมูลสำหรับการตัดสินใจใช้บริการสถานพยาบาลที่ดีและมีคุณภาพนั้น ก็นับว่าเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อผลลัพธ์ที่ดีหลังการร้อยไหม จึงควรต้องเลือกสถานพยาบาลที่มีพร้อมด้วยไหมที่มีคุณภาพ และหมอผู้เชี่ยวชาญอีกด้วย