ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม ดีไหม ควรดูแลอย่างไร หลังจากผ่าตัด

ไขมันกระพุ้งแก้มเป็นก้อนไขมันที่โดยปกติร่างกายเรามีอยู่แล้ว ทุกคนมีก้อนไขมันตรงแก้มนี้ แต่จะมีมากน้อยแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมของแต่ละคน และการสะสมของไขมัน บางคนก็หน้าดูอวบอูมมาตั้งแต่เกิดทั้งที่ไม่ได้อ้วน บางคนก็เป็นการสะสมของไขมัน  ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม ดีไหม ไขมันตรงนี้ไม่ได้มีอันตรายอะไร แต่ถ้ามีมากไปก็จะทำให้เกิดความไม่มั่นใจ จึงทำให้ต้องมีการผ่าตัดลดไขมันกระพุ้งแก้มเพื่อแก้ไขปัญหานี้

การผ่าตัดลดไขมันกระพุ้งแก้มนับเป็นการผ่าตัดเล็ก ขั้นตอนการทำจึงไม่ยุ่งยาก แพทย์จะนำน้ำยาฆ่าเชื้อมาทำความสะอาดให้ทั่วบนใบหน้าและฉีดยาชาตรงบริเวณที่จะผ่าตัด ก่อนจะเริ่มเปิดแผลที่ด้านในกระพุ้งแก้มและผ่าลึกผ่านกล้ามเนื้อเพื่อให้เจอกลุ่มก้อนไขมัน จากนั้นก็จะค่อยๆ ดึงและตัดไขมันออก เมื่อเสร็จเรียบร้อยก็ทำการเย็บปิดแผล เป็นการผ่าตัดที่ไม่ต้องพักฟื้น หากดูอาการ 30 นาทีหลังผ่าตัดไม่มีอะไรก็ให้กลับบ้านได้

การผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้ม

การผ่าตัดลดไขมันกระพุ้งแก้มสามารถทำได้กับทุกคน แต่ก็ควรทำเมื่ออายุ 20 ปีขึ้นไป เพราะหากทำเร็วเกินไปจะทำให้การผ่าตัดเอาไขมันกระพุ้งแก้มออกมีแนวโน้มที่จะเอาไขมันออกมากเกินไป ภายหลังรูปหน้ามีการปรับเปลี่ยนตามธรรมชาติ ไขมันใต้ผิวหนังที่แก้มลดลง ก็จะทำให้แก้มดูตอบมากเกินไป เป็นผลให้ดูแก่กว่าวัยได้

ความเสี่ยงในผ่าตัดลดไขมันกระพุ้งแก้ม
ความเสี่ยงในผ่าตัดลดไขมันกระพุ้งแก้มก็คงจะเป็นเรื่องของการไปกระทบกับเส้นประสาท ท่อน้ำลาย เส้นเลือดแดงที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์แต่ละคน ถ้าเป็นการผ่าตัดโดยแพทย์ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์สูง ความเสี่ยงที่จะไปกระทบกับส่วนเหล่านี้ก็จะน้อยลงมาก

ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม ดีไหม รีวิวการทำ

หลังผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้มควรดูแลตนเองอย่างไร

หลังทำแล้วควรหมั่นรักษาความสะอาดในช่องปากให้ดี เพื่อลดการติดเชื้อของแผล ควรนอนให้ศีรษะสูงขึ้นหรือใช้วิธีนั่งหลับ ร่วมกับการใช้เจลเย็นหรือน้ำแข็งประคบที่แก้มด้านนอก ถ้าคุณดูแลแผลอย่างดีไม่นานก็จะมีใบหน้าที่ดูเรียวสวยอย่างที่คุณต้องการก็จะมาหาคุณได้เร็วขึ้น

การตัดไขมันกระพุ้งแก้มถือว่าเป็นการทำศัลยกรรมขนาดเล็ก ดังนั้นไม่ต้องค้างคืน ทำเสร็จสามารถกลับบ้านได้เลย ทำศัลยกรรมอย่างไร เพื่อให้ได้ผลดี

  • ควรจะทำในจุดที่เรามีปัญหาจริง ๆ ยิ่งทำน้อยยิ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย
  • ก่อนที่ท่านจะทำศัลยกรรมท่านจะต้องเลือกสถานที่ แพทย์ที่ต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง สถานที่ต้องสะอาด ได้มาตรฐาน จดทะเบียนอย่างถูกต้อง

การเตรียมตัวก่อนทำศัลยกรรมตกแต่ง

  • ท่านจะต้องได้รับการตรวจสุขภาพก่อนผ่าตัด เพราะบางโรคมีผลต่อการศัลยกรรมตกแต่ง หากท่านมีโรคเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรือแผลหายยาก ท่านจะต้องแจ้งโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยากิน ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
  • หลีกเลี่ยงผ่าตัดในบริเวณใกล้เคียงที่มีการติดเชื้อ
  • ก่อนและหลังผ่าตัดท่านจะต้องงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • ก่อนทำการผ่าตัดท่านจะต้องงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และหลังผ่าตัด 1 สัปดาห์
  • ก่อนทำการผ่าตัดให้ท่านหยุดทานอาหารเสริม เช่นวิตามินอี และหยุดยาในกลุ่มที่มีผลต่อการหยุดเลือดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • งดการแต่งหน้าก่อนการผ่าตัดบริเวณใบหน้า

การดูแลตัวเองหลังจากศัลยกรรม

  • หลังจากการทำศัลยกรรมเสร็จควรประคบเย็นทันที เพราะความเย็นจากการประคบเย็นจะเข้าไปทำให้เส้นเลือดที่บริเวณดังกล่าวเกิดการหดตัว และเลือดมีการแข็งตัวทำให้ไหลช้าลด จึงสามารถช่วยลดการไหลของเลือดที่บริเวณที่เกิดแผล และยังช่วยลดอาการบวม
    การประคบร้อน
  • หลังจากทำศัลยกรรม ประมาณ 4 – 5 วันหรือหลังจากทำการประคบเย็นแล้วจนแผลและบริเวณทำการศัลยกรรมมีอาการบวมน้อยลง ความร้อนจากการประคบร้อนจะเข้าไปทำการขยายหลอดเลือดส่งผลให้เลือดสามารถหมุนเวียนได้ดีขึ้น แผลจะหายกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้เร็วขึ้น
  • แอลกอฮอล์จะเข้าไปกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปทั่วร่างกาย ซึ่งทำให้เลือดไหลเข้าสู่บริเวณแผลของการทำศัลยกรรมทำให้เกิดการบวมเพิ่มขึ้น ดังนั้นหลังจากทำศัลยกรรมควรงดดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์จนกว่าจะแผลจะหายบวมและปากแผลปิดสนิท
  • ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีรสชาติอ่อนไม่เผ็ด ไม่เค็มหรือหวานจัด และควรเลือกรับประทานอาหารอ่อนที่ไม่ต้องทำการเคลื่อนไหวอวัยวะภายในปากมาก เช่น ต้มจืด โจ๊ก ข้าวต้ม น้ำซุป เป็นต้น
  • หลังจากที่ทำการศัลยกรรม แพทย์จะให้ยารับประทานเพื่อลดอาการอักเสบ ลดบวมแก่ผู้เข้ารับการศัลยกรรม