ถือว่าเป็นตัวช่วยสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมความงามเป็นอย่างมาก ไม่ได้จำกัดว่าสามารถทำได้เฉพาะผู้หญิงเท่านั้น สาวประเภทสองที่ต้องการศัลยกรรมใบหน้าชายเป็นหญิง เพราะรักในความสวยความงามไม่แพ้ผู้หญิงเช่นกัน แต่เนื่องด้วยลักษณะโครงสร้างใบหน้าระหว่างผู้ชายและผู้หญิง มีลักษณะที่แตกต่างกัน โครงสร้างของใบหน้าไม่ค่อยอ่อนหวาน เหมือนเช่นผู้หญิง สิ่งที่สามารถช่วยได้นั่นก็คือ การศัลยกรรมใบหน้า เพื่อสามารถตอบโจทย์ให้ได้ตรงตามความต้องการได้มากที่สุด สามารถแปลงโฉมหน้าของผู้ชายมาเป็นผู้หญิงที่สวยงาม ดูอ่อนหวานมากยิ่งขึ้น สามารถแก้ไขส่วนต่าง ๆ บนใบหน้าที่มีความเป็นชายให้มีลักษณะเป็นหญิง โดยลักษณะใบหน้าที่มีความเป็นชายที่พบได้มากที่สุดคือ โหนกคิ้วสูง จมูกทรงทื่อและใหญ่ ปลายจมูกยื่น ลูกกระเดือก และสันกรามชัด ผู้ชายมักมีใบหน้ายาวกว่าผู้หญิง กระดูกหน้าผากมักเป็นสันยาวตลอดระยะหน้าผาก (กระดูกโหนกคิ้ว) ในขณะที่หน้าผากผู้หญิงจะดูมีความนุ่มนวลและเป็นทรงเรียบกว่า กระดูกโหนกคิ้วของผู้หญิงอาจนูนขึ้นเล็กน้อยหรือไม่นูนขึ้นมาเลย คางของผู้ชายมักเป็นทรงเหลี่ยม ในขณะที่คางผู้หญิงมักกลมกลึงและแหลมกว่า
จุดบนใบหน้า ที่ศัลยแพทย์ตกแต่ง นำมาพิจารณาในการออกแบบศัลยกรรมหน้า ชายเป็นหญิง
- ศัลยกรรมใบหน้าชายเป็นหญิง (Forehead feminization)
หน้าผากชายจะกว้างและสูงกว่าหญิง หน้าผากชายจะมีกระดูกโหนกคิ้วสูง พาดยาวจากซ้ายไปขวา แต่หน้าผากผู้หญิงจะเรียบเนียน หน้าผากชายจะลาดชันไปข้างหลังคล้ายหน้าผากซามูไร
- ผ่าตัดโหนกคิ้วให้เป็นแบบผู้หญิง (Eyebrows feminization)
ความแตกต่าง ของคิ้ว ผู้หญิง และ ผู้ชายดังนี้
คิ้วผู้ชายจะหนาและเป็นเส้นตรง ในขณะที่คิ้วผู้หญิงจะเส้นเล็กและโค้ง
คิ้วผู้ชายจะอยู่ระดับกระดูกโหนกคิ้ว หรือต่ำกว่า คิ้วผู้หญิงจะอยู่สูงกว่ากระดูกโหนกคิ้ว การผ่าตัดคิ้วให้เป็นผู้หญิงโดยการ ผ่าตัดดึงคิ้วให้ โก่ง และสูงขึ้น ส่วนความหนาของคิ้วให้ตัดแต่งออก ให้ได้รูปทรงคิ้วที่สวยงาม
- ผ่าตัดแก้ไขจมูก ชายเป็นหญิง (Nose Feminization)
ความแตกต่างของจมูกผู้ชายและจมูกผู้หญิงมีดังนี้
จมูกผู้ชายจะกว้างและยาว ขณะที่จมูกผู้หญิงจะแคบและสั้นกว่าจมูกผู้ชายสันจมูกแข็งจะโค้งหรือ ตรงแต่ของผู้หญิงจะโค้งดูอ่อนหวาน
- การผ่าตัดโหนกแก้ม ชายเป็นหญิง (Cheekbone Femininization)
โหนกแก้ม เป็นสิ่งสำคัญของใบหน้าโดยรวม ความแตกต่างระหว่างโหนกแก้มชายและโหนกแก้มหญิง โดยโหนกแก้มหญิง จะโค้งสวยงาม ทำให้ใบหน้าดูกลมกลืน เต็มอิ่ม แต่ขณะเดียวกันโหนกแก้มของผู้ชายจะต่ำแบน และเป็นมุม
- ศัลยกรรมตา ชายเป็นหญิง (Eyes Femininization)
ดวงตาเป็นสิ่งที่สำคัญ ที่แสดงออกถึงอารมณ์และความรู้สึก ข้อแตกต่าง ระหว่าง ดวงตาของผู้ชายและผู้หญิง คือ ตาของผู้ชายจะมีลักษณะตาลึกและแคบ มีกระดูกโหนกคิ้วที่สูง ซึ่งแตกต่างจากผู้หญิงที่จะมีลักษณะตากลมโตกว่า กว้างกว่า ดูสดใสกว่า มีวิธีการผ่าตัดตา ให้มีลักษณะเป็นผู้หญิง ได้แก่ การผ่าตัดตา แบบแคทอาย เป็นการผ่าตัดตาที่ทำให้เปลือกตาบน ดูเปิดกว้างขึ้น ทำให้หางตาชี้ขึ้น คิ้วบางครั้งอาจจะต้องการ การดึงหางตาและหางคิ้วด้วย การทำแคทอายจะทำภายใต้การฉีดยาชาใช้เวลาในการผ่าตัด 2-3 ชั่วโมง การเย็บกล้ามเนื้อตา ให้แคบลง แล้วเย็บหางตา ให้สูงขึ้น ตัดหนังส่วนเกินออกเย็บเปลือกตา หลังผ่าตัด 5 วัน ตัดไหม ผู้ป่วยสามารถ กลับเข้าสู่ภาวะ และใช้ชีวิตปกติได้หลังผ่าตัด 7 วัน (see more)
บทความแนะนำ การฉีดฟิลเลอร์ จาก Rattinan.com
- ศัลยกรรมปาก ชายเป็นหญิง (Lips Femininization)
เป็นสัญลักษณ์ของความเซ็กซี่ และความสวยงาม ความแตกต่างระหว่างริมฝีปากชายและริมฝีปากหญิง คือ ริมฝีปากผู้หญิง จะเอิบอิ่ม เผยอ เล็กน้อย มองเห็นฟัน ส่วนริมฝีปากผู้ชายจะบางเป็นเส้นตรงและกว้าง ลดขนาดริมฝีปาก เพื่อลดขนาด และแก้ไขรูปร่างการทำริมฝีปากให้เป็นผู้หญิง
- กรอกระเดือก (Adam’s Apple)
กระเดือกเป็นสัญลักษณ์อันหนึ่งที่เป็นบอกความเป็นเพศชายมาตั้งแต่กำเนิด เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรูปหน้าให้สวยงาม มีเสน่ห์ ดูอ่อนหวาน ได้สัดส่วนของความเป็นผู้หญิงแล้ว ลำคอที่เรียบเนียนระหง ต้องไม่มีลูกกระเดือกมาทำให้สูญเสียความมั่นใจการผ่าตัดเอากระเดือกออกมี 2 แบบคือ กรอกระเดือกแบบมีแผลเป็น กรอกระเดือกแบบไร้แผล
- การผ่าตัดกราม ผ่าตัดคาง ชายเป็นหญิง (Chin to Jaw Reduction)
คางและกราม เป็นส่วนที่สำคัญมากของใบหน้าส่วนล่าง ความแตกต่างของกรามและคางของ ผู้ชายและผู้หญิง คางของผู้ชายจะกว้าง เป็นมุมยื่นเล็กน้อย ผู้หญิง จะดู โค้งอ่อนหวาน และมีขนาดเล็กกว่าของผู้ชาย กรามของผู้ชาย ดูใหญ่ กว้าง และแข็งแรง กรามของผู้หญิง จะแคบและโค้ง การผ่าตัดคางและกรามให้เป็นผู้หญิง
เตรียมตัวอย่างไรก่อนทำหน้าชายเป็นหญิง
- นำรูปภาพใบหน้าของนางแบบที่คนไข้มีความประสงค์ทำหน้าให้ออกมาใกล้เคียง เพื่อปรึกษากับศัลยแพทย์ถึงความเป็นไปได้ของผลลัพธ์ที่ออกมาหลังการรักษาทำหน้าชายเป็นหญิงที่คุณคาดหวังไว้
- แจ้งให้แพทย์ทราบข้อมูลโรคประจำตัว ยาโรคประจำตัว ประวัติการผ่าตัด ประวัติการแพ้ยา ประวัติการแพ้อาหาร หรืออาหารเสริมที่ใช้ในปัจจุบันก่อนเข้ารับการผ่าตัดทำหน้าชายเป็นหญิง
- งดแอสไพริน (Aspirin) และยาในกลุ่ม NSAID (non-steroidal anti-inflammatory drug) 2 อาทิตย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากการรับประทานยาเหล่านี้ส่งผลให้เส้นเลือดไม่แข็งตัว
- งดสูบบุหรี่ก่อนผ่าตัด 2 สัปดาห์ และหลังผ่าตัด 4 สัปดาห์
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-2 วันก่อนผ่าตัด และต่อเนื่องอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังผ่าตัดทำหน้าชายเป็นหญิง
- งดแต่งหน้าในที่วันเข้ารับการรักษา
- การดูแลหลังผ่าตัดปรับรูปหน้าชายเป็นหญิง
- นอนหมอนสูงสองใบ หรือ ครึ่งนั่งครึ่งนอนเพื่อช่วยในการยุบบวมเร็วขึ้น
- ในกรณีมีแผลผ่าตัดในปาก ให้ใช้น้ำยาบ้วนปากบ่อย ๆเพื่อให้ในปากชุ่มชื้นและฆ่าเชื้อโรค
- ใช้ผ้ารัดหน้าที่โรงพยาบาลให้เพื่อช่วยในการยุบบวม 2-3 อาทิตย์
- ทำแผลให้สะอาดทุกวัน ไม่ให้มีคราบเลือดเกาะ สระผมได้หลังผ่าตัด 2 วัน
- 7 วันตัดไหม สามารถกลับไปทำงานได้หลังผ่าตัด 2 อาทิตย์
- งดออกกำลังกายอย่างหักโหม 1 เดือน
- มาพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง
บทความแนะนำ การฉีดฟิลเลอร์ จาก Rattinan.com
ความเสี่ยง และภาวะแทรกซ้อน
หลังผ่าตัดปรับรูปหน้าชายให้เป็นหญิง อาจมีความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนดังนี้
- ติดเชื้อ (Infection) จากแผล หรือจาก วัสดุที่ใช้เสริม
- อาการชา(Numbness)จากบริเวณแผลผ่าตัด หรือใกล้เคียง
- มีอาการบวม (Edema)
- เลือดคั่ง (Hematoma)
- ปวดแผล (Pain)อาจจะต้องให้ยาแก้ปวด หรือประคบน้ำแข็ง
- แผลช้ำเขียว(Bruising)
- เส้นประสาทฉีกขาด (Nerve damage) อาจจะเสียหายไปชั่วคราวหรือถาวรก็ได้
- อาจจะมีใบหน้า หรือองค์ประกอบบนใบหน้าไม่สมดุล (Asymmetry)
- เลือดออก (Bleeding)
- ร่างกายอาจจะไม่ยอมรับ วัสดุที่ใช้เสริม (Implant failure) อาจจะต้องเอาออก
- แผลหายช้า (Poor healing)
- เนื้อตาย (Necrosis)
- แผลเป็น (Scarring)