การร้อยไหม คือ การนำเทคนิคทางการแพทย์มาช่วยในการยกกระชับผิว ลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้ดูเรียว ด้วยการใช้ไหมละลาย ซึ่งวิธีนี้ไม่ต้องใช้การผ่าตัด การร้อยไหมมีต้นกำเนิดมาจากประเทศเกาหลี เป็นการใช้ไหมเส้นเล็กจำนวนมากมาร้อยเป็นเครือข่าย ซึ่งการร้อยไหม pantip จะให้ข้อมูลว่าบริเวณใต้ผิวหนังที่ทำการร้อยไหมเข้าไปจะถูกกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ทำให้เกิดการสร้างเส้นเลือดใหม่
ซึ่งมีผลทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดการกระตุ้นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน ให้สร้างคอลลาเจนใหม่มาพันรอบแนวเส้นไหม มีผลให้เกิดการดึงรั้งผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าเต่งตึงและกระชับ พร้อมทั้งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตมาเลี้ยงชั้นผิวหนังเพิ่มขึ้นด้วย
ชนิดไหมที่นิยมใช้ทำมาจากโพลีไดอ๊อกซาโนน (polydioxanone หรือ PDO) ซึ่งเป็นไหมที่นำมาใช้ในการทำศัลยกรรมเย็บเส้นเลือดหัวใจ ทำให้มีโอกาสแพ้น้อยมาก และจะไม่มีปฏิกิริยาต่อผิวหนัง ซึ่งผ่านการรับรองความปลอดภัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทั้งในและต่างประเทศ
เส้นไหมจะถูกดูดซับโดยผิวหนังภายหลังจากการร้อยไหมผ่านไปหลาย ๆ เดือน ในขณะเดียวกันเส้นไหมจะสามารถสลายตัวได้เองภายใน 8 เดือน และจะให้ผลลัพธ์ต่อผิวหนังในระยะเวลาประมาณ 2 ปี
การร้อยไหมเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาการบกพร่องของผิวหน้าโดยที่ไม่มีเนื้อเยื่อยุบตัวมากเกินไป ซึ่งในกรณีที่มีอายุมากซึ่งจะหมายถึงช่วงอายุ 30 – 50 ปีขึ้นไป และมีผิวหย่อนคล้อยประกอบกับมีการยุบตัวของผิว การร้อยไหมอย่างเดียวอาจช่วยไม่ได้ต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วย สำหรับการร้อยไหมในกรณีที่มีอายุไม่มากจะช่วยในเรื่องของการปรับรูปหน้ามากกว่า
ชนิดของเส้นไหมที่นิยมใช้ในประเทศเกาหลี มี 3 แบบ
- เส้นไหมที่มีเงี่ยง (Cog threads)
เส้นไหมชนิดนี้เหมาะกับการยกกระชับบริเวณคาง ปรับรูปหน้าให้เรียว เป็นเส้นไหมเส้นเดียวแต่มีเงี่ยงตลอดแนวไหม เพื่อทำหน้าที่ยึดเกาะด้านในชั้นผิวหนัง เงี่ยงมีประโยชน์ทำหน้าที่คล้ายโครงสร้างที่จะช่วยยกเนื้อเยื่อหรือผิวหนังที่หย่อนยาน คอลลาเจนจะถูกกระตุ้นให้มีการสร้างขึ้นใหม่รอบเส้นไหมและบริเวณเงี่ยง
- เส้นไหมเรียบ (Mono threads)
เส้นไหมชนิดนี้จะช่วยให้ผิวหนังเต่งตึงแต่ไม่ได้ช่วยยกชั้นผิวหนัง เป็นเส้นเรียบ ไม่มีเงี่ยงหรือปุ่มเหรือเกลียว ส่วนใหญ่จะใช้ร้อยไหมชนิดนี้บริเวณคอ หน้าผาก และใต้ตา
- เส้นไหมเกลียว (Screw threads)
เหมาะกับการยกชั้นผิวหนังที่หย่อนยาน เป็นเส้นไหมเส้นเดียวหรือสองเส้นเกลียวเข้าด้วยกัน เส้นไหมชนิดนี้มีประโยชน์ช่วยเพิ่มปริมาตรบริเวณผิวหนังที่ยุบตัวหรือเป็นแอ่ง เส้นไหมเกลียวจะให้ผลแข็งแรงกว่าไหมเส้นเรียบ
ก่อนที่ท่านจะเข้ารับบริการร้อยไหมนั้น เพื่อสร้างความมั่นใจ ท่านควรดูข้อมูลร้อยไหม pantip จากผู้ใช้บริการหลาย ๆ ท่าน เป็นข้อมูลประกอบตัดสินใจ ซึ่งท่านจะต้องมองหาสถานบริการที่มีคุณภาพในด้านความสะอาด ความปลอดภัย ซึ่งต้องได้รับใบอนุญาต ที่ให้บริการด้านศัลยกรรมและความงามโดยเฉพาะ และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือท่านจะต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแพทย์ว่า มีประสบการณ์และความชำนาญโดยตรงหรือไม่
ก่อนทำการร้อยไหมแพทย์จะทายาชาร่วมกับฉีดยาชาในบางตำแหน่ง หลังจากนั้น แพทย์จะนำเส้นไหมที่อยู่ตรงปลายเข็มเข้าไปยึดตามเนื้อเยื่อผิว โดยจะใช้วิธีการร้อยเรียงเส้นไหม และแพทย์จะพิจารณาตามโครงหน้าของคนไข้เป็นหลักโดยใช้เวลาเพียง 20 – 40 นาที
ขณะทำจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย อาจพบรอยช้ำตามแนวรอยไหมได้บ้าง ร่วมกับอาการบวม แต่จะหายไปเองโดยไม่ต้องพักฟื้นภายใน 1- 2 สัปดาห์ และจะเห็นผลชัดเจนในช่วงประมาณ 2 เดือนหลังร้อยไหม เนื่องจากการร้อยไหมละลายไม่ได้เย็บไหมไว้ด้านในชั้นผิวหนัง SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic System) ซึ่งอยู่ลึกกว่าผิวชั้นหนังแท้ จึงไม่อาจทำให้เกิดความแข็งแรงเทียบเท่าการผ่าตัดดึงหน้า
ดูแลตนเองอย่างไร หลังร้อยไหม
- สิ่งแรกที่ไม่ควรทำ ก็คือ การไปยิงเลเซอร์หรือหัตถการอื่น ๆ กับใบหน้า
- หลังทำการร้อยไหม 2 เดือนแรก ไม่ควรนวดหน้าแรง ๆ บริเวณที่ร้อยไหม
- หากมีอาการผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
บทสรุป
ร้อยไหม pantip ท่านที่จะเข้ารับบริการร้อยไหมท่านควรจะต้องทำการศึกษาข้อมูลให้ละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแพทย์ที่จะเข้าให้บริการที่ต้องมีความชำนาญเฉพาะทาง หรือสถานที่ให้บริการ ซึ่งจะต้องมีความสะอาดปลอดภัย ทั้งนี้เพื่อที่ท่านจะได้ไม่สูญเงินเปล่าหากต้องเข้าใช้บริการร้อยไหมกับสถานบริการนั้น ๆ
