การเสริมจมูก การศัลยกรรมจมูกเป็นเทคนิคเสริมความงามโดยการผ่าตัดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะจะสามารถช่วยออกแบบรูปทรงของจมูกที่เหมาะสมให้กับผู้เข้ารับบริการได้ ให้รับกับโครงหน้าให้มากที่สุดได้ นอกจากความชำนาญของแพทย์แล้ว สถานที่และเครื่องมือที่ใช้ก็สำคัญ การเข้าไปที่คลินิก ก่อนรับการรักษาจึงเป็นประโยชน์มาก เพราะเราจะได้เห็นเกือบทั้งหมด แพทย์ฝีมือดีที่มีเครื่องมือพร้อม สำหรับการทำงานย่อมทำให้ทำจมูกออกมาได้สวยกว่าแพทย์ที่มีเครื่องมือไม่พร้อม ที่สำคัญมันเป็นเรื่องความปลอดภัยของตัวเราเองด้วย ก่อนเข้ารับการศัลยกรรมจมูกต้องศึกษาข้อมูลหลายอย่าง เพื่อเตรียมตัวให้เหมาะสมสู่การศัลยกรรมบนพื้นฐานของความปลอดภัย
การศัลยกรรมจมูกแบ่งออกเป็น 2 วิธี
การใช้เนื้อเยื่อตัวเองและการใช้วัสดุภายนอก
- การใช้เนื้อเยื่อตัวเองที่ใช้ในการเสริมจมูก เช่น กระดูกซี่โครง ไขมัน กระดูกอ่อนหลังหู เป็นต้น
- ส่วนการใช้วัสดุภายนอกคือการใช้ซิลิโคน ซึ่งจะได้รับความนิยมมากกว่าการใช้เนื้อเยื่อ เนื่องจากการใช้ซิลิโคนมักได้รูปร่างที่ต้องการมากกว่า แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือซิลิโคนแบบแท่งและซิลิโคนแบบบล็อก และซิลิโคนที่ถูกนำมาใช้ในการศัลยกรรมจมูกนั้นจะต้องเป็นซิลิโคนเฉพาะที่มีเกรดทางการแพทย์ (Medical grade) ซิลิโคนที่ใช้ในการเสริมจมูกมีทั้งแบบนิ่มและแบบแข็ง หากคนไข้มีผนังจมูกบางควรใช้ซิลิโคนแบบนิ่ม เพราะถ้าใช้แบบแข็งอาจทำให้เกิดการทะลุ และถ้าหากคนไข้มีผนังจมูกที่หนาควรใช้ซิลิโคนแบบแข็ง เพราะถ้าใช้แบบนิ่มจะทำให้มองไม่ออกว่ามีการเสริมจมูกหรือมองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงของรูปจมูก
สิ่งที่อันตรายที่สุดของการศัลยกรรมจมูก
คือการเสริมจมูกแบบฉีด ซึ่งยังไม่เป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์และเพราะผิดกฎหมาย เมื่อเกิดปัญหาไม่สามารถรักษาหรือเอาออกได้ เนื่องจากมีการแทรกซึมและกระจายอยู่ทั่ว โดยผลข้างเคียงของการเสริมจมูกแบบฉีดที่พบบ่อยคืออาการบวมแดงที่เกิดจากการอักเสบ และไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูก
- การรับประทานอาหาร การดื่มน้ำ
- การสูบบุหรี่ให้งดสูบบุหรี่สักระยะหนึ่งเพราะการสูบบุหรี่จะเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
- งดยาแก้อักเสบเพราะจะทำให้เกิดเลือดออกง่าย
- แจ้งประวัติการรักษา โรคประจำตัวต่าง ๆ และการแพ้ยา
- สอบถามราคาให้ชัดเจน
- สระผมให้สะอาดก่อนมาผ่าตัดเสริมจมูก เนื่องจากเมื่อเสริมจมูกไปแล้วจะต้องระมัดระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ เมื่อเสริมไปแล้วอาจจะทำให้สระผมไม่สะดวกในวันแรก ๆ หลังผ่าตัด
การดูแลหลังผ่าตัด
- ประคบเย็น 4-5 วันหลังผ่าตัด เพื่อให้เลือดหยุดไหล หากไม่ประคบเย็นจะทำให้เกิดเลือดออกและมีพังผืดเกิดขึ้น ส่งผลให้จมูกเบี้ยวได้
- ดูแลแผลในโพรงจมูกด้วยไม้พันสำลีเช็ดน้ำเกลือ อย่าใช้แอลกอฮอล์ เบตาดีน หรือยาฆ่าเชื้อโรคที่แสบรุนแรง
- หลีกเลี่ยงการไปในที่ที่มีฝุ่นละอองมากประมาณ 1 สัปดาห์ ป้องกันการไอหรือจาม
- พบแพทย์ตามนัดเพื่อตัดไหม
- สามารถนอนตะแคงได้ ไม่ทำให้ซิลิโคนเคลื่อนที่ เพราะโดยปกติแล้วแพทย์จะทำการติดเทปเอาไว้เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่อยู่แล้ว แต่ให้หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ
- หลีกเลี่ยงอาหารที่ตนเองแพ้ และอาหารที่ทำให้หน้าบวมแดง เช่น อาหารที่ร้อนจัด อาหารที่มีรสเผ็ด อาหารรสเค็ม แอลกอฮอล์ บุหรี่ เป็นต้น
- หลังผ่าตัดภายในเวลา 1 เดือน ห้ามให้เกิดการกระแทกที่บริเวณจมูกเด็ดขาด เช่น หลีกเลี่ยงการชน หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาที่มีการกระแทก เช่น บอล บาสเก็ตบอล ฯลฯ หลังจาก 1 เดือนจมูกจะเข้าที่แล้วสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
การแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
- จมูกเบี้ยว เนื่องจากการเสริมแท่งซิลิโคนในขนาดที่ใหญ่เกินไป หรือเกิดจากการบกพร่องของการติดเทปในช่วงสัปดาห์แรก ทำให้ซิลิโคนลอยและมีโอกาสบิดซ้ายขวาสูงขึ้น
- ซิลิโคนทะลุ มีสาเหตุมาจากการเสริมแท่งซิลิโคนที่ขนาดใหญ่เกินไปหรือซิลิโคนอยู่ในช่องที่ไม่มั่นคง ทำให้เลื่อนไปมาและเกิดการทะลุได้
- การเสริมจมูกที่ปลอดภัยจะต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ ไม่ควรเสริมขนาดที่ใหญ่เกินไปเพราะจะทำให้เกิดการแทรกซ้อนได้ เช่น จมูกเบี้ยวหรือซิลิโคนทะลุ ควรเลือกขนาดแท่งที่พอดีกับใบหน้าและจมูกเดิม เพื่อลดความเสี่ยง ที่สำคัญควรปฏิบัติตนตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด