เสริมคางราคา เท่าไหร่ มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง ที่ต้องรู้ก่อนทำ

เสริมคาง เป็นการศัลยกรรมอันดับต้น ๆ สำหรับคนไข้ที่ต้องการทำศัลยกรรมหน้าเรียว เพราะว่าเรามีความเห็นว่า กระบวนการทำคางที่ยาวขึ้นจะมีผลให้รูปหน้าของพวกเราดูดีขึ้น สถานพยาบาลทั่ว ๆ ไปก็มีบริการเสริมคาง ทำคาง แล้วก็ รีวิวเสริมคาง ให้คนไข้ได้ตัดสินใจมีอยู่มากมาย แต่ว่าจะมีสักกี่คนที่รู้ดีว่า สิ่งจำเป็นกว่าการทำคางหรือเสริมคางราคานั่นคือ รูปทรงที่พอดีระหว่างคางแล้วก็บริเวณใบหน้าส่วนอื่น ๆ

โดยหลักพิจารณาบริเวณใบหน้าได้ส่วนสัด จะพิจารณาด้วยกัน 3 องค์ประกอบ คือ โหนก กราม และก็ ส่วนคาง ในกรณีที่คนไข้วิตกกังวลส่วนใดส่วนหนึ่ง แพทย์จะพิจารณาร่วมกับโหนกแล้วก็กรามด้วย เพื่อให้บริเวณใบหน้าออกมาเพอร์เฟ็คที่สุด

เสริมคางมีกี่แบบพร้อมข้อดี-ข้อเสีย

การศัลยกรรมเสริมคางมีอยู่ 2 แบบดังนี้

1. การเสริมคางด้วยซิลิโคน

โดยการเสริมคางด้วย ซิลิโคนจะมีการเปิดแผลทางด้านในโพรงปากและด้านนอกรอบ ๆ ใต้คาง แต่ผลลัพธ์ไม่ว่าจะเป็นการเสริมทั้งภายในหรือภายนอกก็จะเห็นผลลัพธ์ที่ไม่ถาวรสมบูรณ์ ในอนาคตคนไข้บางทีอาจเกิดปัญหาของเนื้อเยื่อภายใน หรือปัญหาซิลิโคนห้อยทำให้คางเบี้ยว หรือเนื้อคางดูกว้างหนา

ข้อดี-ข้อเสียของการเสริมคางโดยซิลิโคน

เสริมซิลิโคน ซึ่งมักมีปัญหาภายหลัง อาทิเช่นคางห้อย คางตัด คางแหลมเกินความจำเป็น มักพบปัญหาหลังการเสริมคางซิลิโคนไปแล้วช่วง 1 ปีหลังการผ่าตัด คนไข้จะเริ่มไม่ชอบใจกับคางตนเอง เพราะว่ามีปัญหาคางใหญ่ยาวเกินไปหรือเบี้ยว และจะกลับมาหาทางปรับปรุงอยู่เรื่อย ๆ

เสริมคางราคา เท่าไหร่

2. การเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง

การเลื่อนตัดกระดูกคาง เป็นการตัดกระดูกคางแล้วเลื่อนกระดูกให้ขยับมาชิดกัน ทำให้ช่วงคางเรียว ลดความกว้างของคาง รวมทั้งสามารถจัดการกับปัญหาคางถอยเกินไป หรือคางยื่นเกินไปให้อยู่ในระดับที่พอดีได้ เป็นการตัดที่เลี่ยงเส้นประสาทรอบ ๆ คาง รวมทั้งตัดเป็นรูปตัว T W ตามความเหมาะสมของเคสนั้น ๆ ในบางครั้งอาจใช้กระดูกที่เหลือจากการตัดกรามมาต่อรอบ ๆ ปลายคางได้ด้วย ในกรณีที่คนไข้ทำการตัดกรามร่วมด้วยและก็คางมีความสั้นเกินไป

ทั้งสองวิธีการผ่าตัด แพทย์จะเป็นคนตัดสินใจรวมทั้งออกแบบการผ่าตัดให้คนไข้หลังจากการทำซีทีสแกนดูแนวกระดูกแล้วก็เช็คแนวเส้นประสาทแล้ว ผลสรุปที่ได้ถาวรเพราะใช้กระดูกของตัวเองไม่มีสิ่งปลอมปน บริเวณใบหน้าช่วงคางจะดูเรียวมนธรรมชาติสูงที่สุด แต่จะต้องใช้ทักษะศัลยแพทย์ชั้นสูงสำหรับในการผ่าตัด ซึ่งไม่ใช่ศัลยแพทย์ทุกคนจะทำได้ ต้องผ่านการศึกษาต่อด้าน Maxillofacial ซึ่งมีน้อยมากในไทย

ข้อดี-ข้อเสียของการเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง

เสริมคางด้วยกระดูกตนเอง เลื่อนตัดคางทำให้รูปคางเรียวเป็นธรรมชาติ โดยถือว่าเป็นการผ่าตัดใหญ่ภายใต้การดูแลวางยาสลบของวิสัญญีแพทย์ ค่าใช้สอยสูงจะสูงยิ่งกว่าการเสริมคางซิลิโคน โดยศัลยแพทย์ผู้ผ่าตัดควรมีวิชาความรู้ด้าน Maxillofacial และศัลยกรรมพลาสติก เพื่อออกแบบแล้วก็ผ่าตัดบริเวณใบหน้าให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด หลังการผ่าตัดคนไข้จะมีอาการชารอบ ๆ ปลายคาง ซึ่งอาการชาเป็นอาการชั่วคราว จะกลับมาปกติใช้เวลา 6-12 เดือน

การเสริมคางด้วยซิลิโคนและการเสริมด้วยกระดูกแตกต่างกันอย่างไร

1. การเสริมคางด้วยซิลิโคน

การเสริมคางด้วยซิลิโคน เป็นวิธีการที่ไม่ได้ใช้เวลาสำหรับการผ่าตัดนาน ไม่ต้องมีการพักฟื้นแต่ว่าจะต้องดูแลตนเองหลังการทำพยายามอย่าให้มีการกระทบกระเทือนกับคางมากที่สุดซึ่งการเสริมซิลิโคนมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบคือ เสริมด้วยซิลิโคนสำเร็จที่มาจากโรงงานและอีกรูปแบบเป็นการเหลาซิลิโคนของหมอ เพื่อปรับให้เข้ากับรูปหน้าของคนไข้ให้เหมาะสมที่สุด

2. การเสริมคางด้วยกระดูกตนเอง

กระดูกที่ใช้สำหรับการเสริมคางเป็นกระดูกที่ได้ทำการเหลามาจากขั้นตอนการเหลากราม วิธีนี้จะค่อนข้างมีค่าใช้จ่ายสำหรับการผ่าตัดสูงเพราะว่าจะต้องใช้เวลาสำหรับการทำนานกว่าการเสริมซิลิโคนและจะต้องให้หมอที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางแล้วก็มีประสบการณ์เท่านั้นถ้าเกิดไม่ต้องการที่จะเหลากรามก็สามารถนำกระดูกส่วนอื่นมาทำได้ยกตัวอย่างเช่น กระดูกเชิงกรานหรือซี่โครงเพื่อดำเนินการเสริมได้ วิธีการนี้มีข้อดีก็คือร่างกายจะไม่ปฏิเสธหรือมีผลเสี่ยงต่อการเคลื่อนได้เพราะเป็นกระดูกที่เป็นของร่างกายผลลัพธ์ที่ได้จะมีความเป็นธรรมชาติมากยิ่งกว่าการใส่ซิลิโคน

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการผ่าตัดเสริมคาง

อาการชารอบ ๆ คาง ริมฝีปาก ฟันล่างด้านหน้า เพราะว่าเส้นประสาทถูกก่อกวนจากการผ่าตัด แต่โดยปกติมักจะเกิดเพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราว อาการชาจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับและมักจะรู้สึกตัวได้ในระยะเวลาเพียงไม่นาน ประมาณ 1-3 เดือนการเอียงบิดของแท่งคาง คล้ายกับกรณีของการเสริมจมูก คางก็สามารถเอียงได้เหมือนกัน ซึ่งพบบ่อยได้ช่วงหลังทำใหม่ ๆ จนกระทั่งประมาณ 1 เดือน เพราะว่าในตอนแรก คางจะวางตัวเฉย ๆ ไม่มีตัวอะไรไปยึดติดกระดูก ซึ่งร่างกายจะยึดแท่งซิลิโคนได้ด้วยตัวมันเอง ในเวลาประมาณ 1 เดือนขึ้นไป ถ้าเกิดไปกระแทกหรือกระทบอะไรแรง ๆ ก็อาจจะส่งผลให้คางเอียงได้เช่นเดียวกัน การปรับปรุงแก้ไขขั้นแรกหมอสามารถใช้มือดัดให้เข้าที่เข้าทางได้ แต่ว่าถ้าเกิดเอียงมากเกินไปจำเป็นต้องผ่าเข้าไปจัดให้ใหม่ ซึ่งผู้ที่เสริมคางไปแล้วถ้าหากไม่อยากจะต้องมาตามแก้ไขให้ยุ่งยาก ก็ควรระมัดระวังตัวเองไม่ให้มีอะไรไปกระแทกที่คางแรง ๆ ปัญหานี้ก็จะไม่มีอะไรที่น่าวิตก

การเสริมคางก็มีทั้งผลดีและผลเสีย แต่หากเราปฏิบัติตามที่หมอสั่งอย่างเคร่งครัดปัญหาหรือผลเสียจะไม่เกิดกับคุณอย่างแน่นอน และที่สำคัญการเสริมคางราคาก็ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละเคส หากคุณสนใจต้องการเสริมคางก็ควรศึกษาสถานพยาบาลและคุณหมอให้ดีเสียก่อนจะได้ไม่เสียเวลา เสียทั้งเงินค่ะ