ศัลยกรรมดึงหน้า pantip ใครที่เหมาะสำหรับการทำ ต้องเตรียมตัวยังไง

เมื่ออายุล่วงเลยมาถึง 40 ปี ผิวหน้าของคนเราก็จะเริ่มมีริ้วรอยบนใบหน้า ผิวหย่อนคล้อย ลำคอไม่ตึงกระชับ ดังนั้นสาว ๆ คนไหนที่ต้องการจะมีผิวหน้าตึงกระชับ ดูหน้าเด็ก คงต้องพึ่งเทคนิคทางการแพทย์ ซึ่งปัจจุบันนี้ ศัลยกรรมดึงหน้า pantip ได้เข้ามามีบทบาทในวงการแพทย์มากขึ้น และก่อนที่ท่านจะเข้ารับบริการท่านจะต้องทำการศึกษารายละเอียดและวิธีในการดึงหน้าให้ดี เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง

เมื่ออายุ 40 ปี จะเริ่มเข้าสู่ภาวะการแก่ชรา (Aging Process) ซึ่งจะมีส่วนประกอบใหญ่ๆ สองส่วนคือ

  • ความเสื่อมโดยธรรมชาติและแสงแดดทำให้ ผิวหนังบางลง มีริ้วรอยย่นขนาดเล็ก ๆ หรือจุดเม็ดสีที่ผิดปกติ
  • ผิวหนังหย่อนยานลงจากแรงโน้มถ่วงของโลก เห็นได้จากคิ้วที่ตกลงมาพร้อม ๆ กับหนังตาบน หนังตาล่างและแก้มที่หย่อนลงมาทำให้โหนกแก้มดูต่ำลง เกิดร่องข้างแก้มและจมูก หรือแก้มที่ห้อยลงมาจนมองไม่เห็นขอบของกระดูกขากรรไกรล่าง

รวมทั้งคอที่เห็นเป็นสันและไขมันใต้คางที่ย้อยลงมาทำให้คางดูสั้นลงหรือเห็นเป็นสองชั้นการผ่าตัดดึงหน้าและคอจะช่วยในกรณีที่ 2 นี้ โดยการดึงให้ส่วนที่ตกลงมากลับไปอยู่ในที่ ที่ควรจะเป็นให้ได้มากที่สุดร่วมกับการตัดผิวหนังส่วนเกินออก ส่วนริ้วรอยขนาดเล็ก ๆ ที่เหลืออยู่และจุดเม็ดสีที่ผิดปกติต้องแก้ไขด้วยวิธีอื่น เช่น การใช้สารเคมี (Chemical Peeling) และการใช้เลเซอร์ เป็นต้น

โดยเฉพาะผู้หญิงเราเวลาโดนชมว่าสวยไม่สร่าง หรืออายุเยอะแล้วแต่ผิวหน้ายังตึงเปรี๊ยะ จะรู้สึกปลาบปลื้มดีใจจนเก็บอาการแทบไม่อยู่ และคงอยากให้ความสวยความเต่งตึงคงอยู่อย่างนี้ไปตลอด การมีใบหน้าที่สดใสเต่งตึงเป็นสิ่งที่ทุกคนล้วนปรารถนา ซึ่งในความเป็นจริงสังขารของมนุษย์นั้นไม่เที่ยง

ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงเสื่อมสภาพไปตามวัย ผิวหน้าที่เคยเปล่งปลั่งสดใสจะเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย ไม่เต่งตึงเหมือนสาวๆ ยิ่งวัยเพิ่มมากขึ้นความหย่อนคล้อยจะยิ่งเห็นชัด เช่น หางคิ้วจะตกลง หนังตาด้านข้างจะหนาขึ้น แก้มห้อยย้อย มุมปากตก ร่องแก้มลึก ผิวบริเวณคอหย่อน ริ้วรอยแห่งวัยยิ่งเด่นชัดก็ยิ่งฟ้องอายุ และส่งผลต่อความมั่นใจในตัวเองได้

ผู้หญิงที่ผิวหน้าหย่อนคล้อย มีริ้วรอย หากอยากมีผิวหน้าที่เต่งตึงสมวัยหรืออ่อนกว่าวัยอีกครั้ง ทางที่เห็นผลทันตาที่สุด คือ การทำศัลยกรรมดึงหน้า pantip ซึ่งการดึงหน้าจะช่วยยกผิวหน้าที่หย่อนคล้อยให้กลับสู่ตำแหน่งเมื่อครั้งวัยสาว เพิ่มความกระชับของผิวหน้าให้ดูเต่งตึง และลดความเด่นชัดของความหย่อนคล้อยต่าง ๆ

ผู้ที่เหมาะสมกับการทำศัลยกรรมดึงหน้า

การดึงหน้านั้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นค่อนข้างชัดเจน หรือตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป เพราะอายุมากขึ้นผิวหนังก็จะเสื่อมสภาพไปตามเวลา แต่สำหรับผู้ที่มีรอยเหี่ยวย่นไม่มาก เช่นบริเวณแก้ม หรือคางอาจจะสามารถทำศัลยกรรมดึงหน้าบางส่วนได้ (Mini Facelift)

ศัลยกรรมดึงหน้า pantip ทำที่ไหนดี

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดดึงหน้า

  • ก่อนเข้ารับบริการ 2 สัปดาห์ ผู้เข้ารับการผ่าตัดควรงดรับประทานยาละลายลิ่มเลือด เช่น ยา Aspirin และ Ibuprofen วิตามินเอ อี ซี สมุนไพร โสม ใบแปะก๊วย น้ำมันปลา
  • ก่อนเข้ารับบริการอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ท่านจะต้องงดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ผู้เข้ารับบริการ ควรอาบน้ำสระผม ทำความสะอาดร่างกายให้สะอาดเรียบร้อยก่อนการผ่าตัด
  • เตรียมใส่เสื้อผ้าที่หลวมสบาย ใส่และถอดใส่ง่าย เช่นเสื้อที่มีกระดุมหน้า

ขั้นตอนการผ่าตัดดึงหน้า

  • แพทย์จะทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ บริเวณที่ผ่าตัด
  • แพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะจุด บริเวณที่ทำการผ่าตัด หรือ ดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์
  • แพทย์จะเปิดแผลบริเวณที่ต้องการดึง หลังจากนั้นเปิดเลาะแยกชั้นของผิวหนังออกจากชั้นของไขมันและกล้ามเนื้อ แล้วก็จะดึงชั้นของไขมัน
  • แพทย์จะเปิดเลาะไปในชั้นของ SMAS (Superficial Musculoponeurotic Stytem) แล้วเย็บยกกระชับทำให้กล้ามเนื้อที่ใบหน้ายกกระชับขึ้น
  • ดึงผิวหนังมาให้มาปิด แล้วตัดส่วนที่เกินออก แล้วเย็บปิดแผล
การดูแลแผลหลังผ่าตัดดึงหน้า
  • หลังผ่าตัด 2 สัปดาห์ ท่านจะต้องงดสูบบุหรี่ และ แอลกอฮอล์ อาหารรสจัด และ ของหมักดอง
  • ท่านจะต้องประคบเย็นบริเวณใบหน้าประมาณ 3 วัน
  • หลีกเลี่ยงสัมผัส หรือ กระแทกบริเวณใบหน้า และ ลำคอ 7 วัน
  • ทำความสะอาดแผลให้สะอาด โดยใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำเกลือซับเบาๆบริเวณแผล
  • หลีกเลี่ยงแผลโดนน้ำ 7 วัน
  • นอนศีรษะสูง เพื่อช่วยลดอาการบวมเป็นเวลาประมาณ 1 อาทิตย์
  • งดกิจกรรมการออกกำลังกาย ทุกชนิด ที่จะทำให้กระทบกระเทือนแผล ประมาณ 2 อาทิตย์

บทสรุป

ศัลยกรรมดึงหน้า pantip เหมาะกับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป เนื่องจากด้วยอายุทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า ดังนั้นศัลยกรรมดึงหน้าจึงเป็นทางเลือกให้กับสาว ๆ ที่ต้องการให้ตัวเองดูอ่อนกว่าวัย แต่ก่อนที่ท่านจะเข้าใช้บริการท่านจะต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียด ทั้งในเรื่องของสถานพยาบาล และแพทย์ผู้ให้บริการต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เนื่องจากการทำศัลยกรรมเป็นการรักษาที่มีความเสี่ยง จึงต้องศึกษาข้อมูลให้ดี