การร้อยไหมนั้นเรียกว่าเป็นยอดฮิตของผู้ที่ต้องการมีหน้าเด็กตึงกระชับ หรือมีปัญหาหน้าหย่อนคล้อย เพราะว่าการร้อยไหมที่ไหนดีนั้นถือว่าเป็นหัตถการที่ราคาไม่สูง และได้ผลเร็วทันใจการดูแลตนเองก็ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องพักฟื้นนาน ๆ เหมาะกับผู้หญิงยุคใหม่ที่อาจจะต้องทำงานทุกวัน ไม่ว่างพักหน้านาน หรือต้องการความเป็นธรรมชาติและยังไม่อยากผ่าตัดดึงหน้า
ร้อยไหมมีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไร
ร้อยไหมมีด้วยกัน 2 แบบ คือ ร้อยไหมก้างและร้อยไหมเรียบ ทั้งสองเส้นไหมนี้จะมีลักษณะที่ต่างกัน และก็จะช่วยขจัดปัญหาที่แตกต่าง ซึ่งร้อยไหมแต่ละแบบ มีข้อดีและข้อเสีย ที่แตกต่าง ดังต่อไปนี้
1. ร้อยไหมเรียบ
ร้อยไหมเรียบร้อยไหม PDO รูปแบบของเส้นไหมที่เรียกว่าไหมเรียบนั้นก็เพราะ เส้นไหมจะเป็นเส้นสั้น ๆ ความยาวไม่เกิน 10 ซม. เส้นไหมมีความราบเรียบ ไม่มีเงี่ยงแยกออกมา
ข้อดีของไหมเรียบ จะช่วยทำให้ผิวแน่นเฟิร์ม ลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นมาจากคอลลาเจนหมดสภาพได้ โดยผลลัพธ์จะช่วยทำให้ผิวแน่นตึงเริ่มเห็นผลตั้งแต่หลังร้อยไหมในทันที แล้วก็จะยิ่งเยอะขึ้นเมื่อไหมละลายหมดแล้ว ไหมเรียบมีฤทธิ์ช่วยยกกระชับผิวด้านบนและก็กระตุ้นคอลลาเจนได้ดีกว่าไหมก้าง
ข้อเสียของไหมเรียบ เนื่องจากไหมเรียบไม่มีเงี่ยงหรือก้างคอยยกดึงบริเวณใบหน้า ทำให้ไม่สามารถที่จะล็อคกับเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังได้ ทำให้ฤทธิ์การยกตึงค่อนข้างจะน้อยเมื่อเทียบกับร้อยไหมก้าง
2. ร้อยไหมก้าง
ร้อยไหมก้าง ร้อยไหมเงี่ยง รูปแบบของเส้นไหมที่เรียกว่าไหมก้างนั้นก็เพราะ เส้นไหมจะมีลักษณะค่อนข้างใหญ่และก็มีเงี่ยง จะมีทั้งรุ่นเงี่ยง 1 ทิศทางและ 2 ทิศทาง ซึ่งเงี่ยงจะช่วยสำหรับการล็อกเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง และก็พยุงให้ยกตึงยิ่งขึ้น
ข้อดีของไหมก้าง เรื่องการยกตึงบริเวณใบหน้าจะได้ผลตั้งแต่หลังทำเสร็จโดยทันที แต่จะได้ผลแน่ชัดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วง 1 เดือนหลังร้อยไหม เพราะว่าเส้นไหมมีเงี่ยงที่จะสามารถล็อกเนื้อเยื่อได้ดีกว่าไหมเรียบ ก็เลยใช้จำนวนเส้นในการร้อยไหมก้างน้อยกว่าไหมเรียบ
ข้อเสียของไหมก้าง เนื่องจากไหมเส้นใหญ่กว่า และก็มีเงี่ยงที่ใช้ยึดล็อกเนื้อเยื่อ ทำให้หลังร้อยไหมจะมีโอกาสคลำเจอเส้นไหมได้ในช่วงแรก ๆ ซึ่งอาการเหล่าจะค่อย ๆ หายไปเองหลังจากไหมเริ่มละลาย และเกิดเป็นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาทดแทนให้ผิวอิ่มฟู
การร้อยไหมเหมาะสมกับใครบ้าง
การยกกระชับผิวหน้าด้วยวิธีนี้เหมาะสมกับคนที่มีอายุตั้งแต่ 30-60 ปีขึ้นไป โดยเนื้อเยื่อจะต้องไม่ยุบตัวหรือผิวหนังต้องไม่หย่อนคล้อยมากจนเกินไป เพราะหากผิวหนังหย่อนยานมากเพราะอายุหรือมีน้ำหนักตัวมาก บางทีอาจจะต้องใช้วิธีนี้ร่วมกับวิธีอื่น ๆ จึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน นอกจากนี้การร้อยไหมบางทีอาจได้ผลดีขึ้นหากใช้วิธียกกระชับอื่น ๆ ร่วมด้วยในภายหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีที่ไม่ใช้การศัลยกรรมซึ่งจะได้ผลดียิ่งกว่า หรือบางทีอาจใช้กับคนที่พึ่งเข้ารับการผ่าตัดยกหน้าไปแต่ว่ายังไม่พร้อมในการผ่าตัดครั้งต่อไป ในกรณีนี้บางทีอาจเลือกการร้อยไหมแทนได้เช่นเดียวกัน
ก่อนเข้ารับการร้อยไหมต้องเตรียมตัวอย่างไร
- การจัดเตรียมก่อนที่จะมีการร้อยไหม
- โปรดแจ้งอาการแพ้ ยาหรืออาหารเสริมที่ใช้ในปัจจุบันก่อนเข้ารับการร้อยไหม
- หากมีโรคประจำตัว โปรดแจ้งศัลยแพทย์ตกแต่งให้รู้ล่วงหน้า
- งดยาแอสไพริน (Aspirin) ไอบิวโพรเฟน (Ibuprofen) ยาต้านการแข็งตัวของเลือด และก็วิตามินอี อาหารเสริม ล่วงหน้า 1 อาทิตย์ก่อนเข้ารับบริการ
- งดดูดบุหรี่ก่อนผ่าตัด 1 อาทิตย์ แล้วก็หลังการร้อยไหม 1 อาทิตย์
กระบวนการร้อยไหม
- ป้ายยาชาใบหน้า 30-45 นาที โดยหมออาจเพิ่มการฉีดยาชาเฉพาะจุด
- ชำระล้างให้ทั่วบริเวณใบหน้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค หลังจากขั้นตอนทาและฉีดยาชา หมอจะสอดเส้นไหมเข้าไปในเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังอย่างระมัดระวัง เส้นไหมจำนวนหลายเส้นที่สอดเข้าไปนี้จะนำไปสู่กลไกการยกกระชับผิว
- หมอร้อยไหมละลายเข้าไปยึดตามเนื้อเยื่อผิว โดยจะใช้วิธีร้อยเรียงเส้นไหม ในเวลาแค่ 30- 60 นาทีหลังจากร้อยไหมแล้ว อาจมีการเพิ่มแรงดัน บริเวณใบหน้าด้วยการกดเบา ๆ ทั่ว ๆ บริเวณใบหน้า ร่วมกับการประคบเย็น เพื่อลดการไหลออกของเลือด ทำให้การ เกิดการเขียวบอบช้ำต่ำลง เป็นเวลา 10-15 นาที เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อยสิ้นขั้นตอนการร้อยไหม
- หมอจะจัดยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ กลับไปกินต่อที่บ้านประมาณ 1 อาทิตย์
- โดยผลลัพธ์จะคงอยู่ประมาณ 1-2 ปี และก็อาจเริ่มกลับมาหย่อนคล้อยเล็กน้อยหลังจาก 6 เดือนแรก ทำให้อาจจะต้องเข้ารับการร้อยไหมอีกรอบเพื่อคงผลลัพธ์ให้ยาวนานเพิ่มขึ้น โดยทั่วไปบริเวณใบหน้าของผู้เข้ารับการร้อยไหมอาจบวมในตอนแรก และก็กลับมาดูเป็นปกติภายในประมาณ 24-48 ชั่วโมง แต่บางรายอาจปรากฏรอยพับหรือรอยย่นของผิวหนังเป็นเวลาหลายสัปดาห์ได้
10 วิธีดูแลตัวเองหลังการร้อยไหม
- หลังจากร้อยไหมไม่สมควรนอนคว่ำ หรือนอนตะแคงเพราะว่าจะทำให้เจ็บในตะแหน่งที่ทำการร้อยไหม วิธีแก้คือ ควรจะนอนหงายเพื่อเลี่ยงการเสียดสีหรือสัมผัสบนบริเวณใบหน้ากับหมอน
- งดทานยาหรือวิตามินที่มีผลทำให้เลือดไหล ดังเช่น วิตามิน E แอสไพริน ใบแปะก็วย
- ควรจะหลีกเลี่ยงการสัมผัสในบริเวณที่ร้อยไหมในอาทิตย์แรก
- ไม่ควรทำทรีตเม้นท์ เลเซอร์ หรือนวดหน้า
- ถ้าหากมีอาการบวมในบริเวณที่ร้อยไหมสามารถทานยาพาราและยาลดบวมได้
- หลังการร้อยไหมสามารถทายาแก้อักเสบได้
- ถ้ามีปุ่มนูนหรือบุ๋มลงไปเกิดขึ้นจากไหมที่ร้อยอยู่ใกล้ผิวหนังเกินความจำเป็น แต่ไม่ต้องกังวลเป็นอาการปกติภายใน 1 เดือนก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น
- ถ้าเกิดมีอาการบอบช้ำบริเวณที่ร้อยไหมในระยะเวลา 1-2 อาทิตย์ร้อยบอบช้ำดังกล่าวก็จะค่อย ๆ หายไปเอง
- บางจุดหลังจากทำการร้อยไหมมาแล้วถ้ามีเส้นไหมโผล่ออกมาและจะมีสีม่วงหรือสีน้ำเงินให้กลับมาพบแพทย์เพื่อทำการตัดใหม่ที่โผล่ออกห้ามดึงออกเองโดยเด็ดขาด
- ถ้ามีอาการบวมหลังจากร้อยไหมและบวมเพิ่มมากขึ้นให้รีบไปพบหมอโดยเร่งด่วน
การร้อยไหมจะเริ่มเห็นผลหลังจากรับบริการไปได้ 1-2 เดือนใบหน้าจะยกกระชับจนเห็นได้ชัด ในส่วนของการบวมช้ำก็จะค่อย ๆ หายไปเองอย่างเห็นได้ชัด และเกิดคำถามมากมายว่าจะไปร้อยไหมที่ไนดี ก่อนการร้อยไหมก็ต้องศึกษารายละเอียดและข้อมูลให้ดีก่อน หรืออาจจะดูจากการรีวิวจากคนที่เคยร้อยไหมมาก่อนเพื่อจะให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะไปร้อยไหมที่ไหนดี